ลูกสาวคนป่วยโควิด-19 พ้อ เจอค่ารักษาเจ็ดแสนกว่าบาท ทั้งที่รัฐบาลประกาศเอกชนก็รักษาฟรี

         เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564    เพจของหมอแล็ลแพนด้าได้มีการโพสต์ภาพเป็นข้อความแชร์ของหญิงสาวรายหนึ่ง  ค่ารักษาเจ็ดแสนกว่าบาท   ซึ่งเธอระบุว่าเธอถูกเรียกเก็บค่ารักษาอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 7 แสนกว่าบาท  ซึ่งเธอระบุอีกด้วยว่าจากที่รัฐบาลได้มีการประกาศว่าหากป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดรักษาฟรีได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและของโรงพยาบาลเอกชนโดยใช้สิทธิ์ Ucep นั้นไม่เป็นความจริง

       หญิงสาวรายดังกล่าวได้มีการโพสต์ข้อความลงใน Facebook ส่วนตัวของเธอและถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างโดยในรายละเอียดของข้อความนั้นเธอเล่าถึงเหตุการณ์ว่าผู้ป่วยนั้นคือคุณพ่อของเธอเองซึ่งพ่อของเธอนั้นมีอาการเหนื่อยเพลียมาเป็นอาทิตย์แล้วเธอและคนในครอบครัวพยายามที่จะติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 

        แต่ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนที่จะรับตรวจเลยจนเมื่อวันที่ 23 เดือนเมษายนสามารถเข้ารับตรวจได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งหลังจากพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิดก็ขอแอดมิดที่โรงพยาบาลทันทีแต่ปรากฏว่าโรงพยาบาลแจ้งว่าเตียงเต็มต้องรอก่อนซึ่งพ่อของเธอต้องกลับมาที่บ้านแต่หลังจากกลับมาอยู่บ้านแล้วอาการของพ่อยิ่งรุนแรงมากขึ้นเริ่มหายใจไม่ออกวันรุ่งขึ้นเธอจึงได้มีการต่อโรงพยาบาลเดิมอีกครั้งแต่ก็ได้รับการยืนยันเช่นเดิมว่าเตียงเต็มจึงต้องรีบหาโรงพยาบาลอื่นเพื่อให้คุณพ่อของเธอได้เข้ารับการรักษาเพราะเกรงว่าจะไม่ทันการโดยไปที่โรงพยาบาลที่ 2 

          ซึ่งครั้งแรกนั้นทางโรงพยาบาลบอกว่าเตียงเต็มเช่นกันแต่หลังจากนั้นไม่นานทางโรงพยาบาลก็ติดต่อมาว่าตอนนี้มีเตียงสามารถให้ผู้ป่วยแอดมิดได้แล้วแต่ต้องมีการวางเงินเป็นค่ามัดจำจำนวนทั้งสิ้น 1 แสนบาทถึงจะเอาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้  ค่ารักษาเจ็ดแสนกว่าบาท  ซึ่งแม่ของเธอก็รีบนำเงินไปมัดจำกับทางโรงพยาบาลทันทีหลังจากนั้นพ่อของเธอก็เข้าห้อง ICU ในวันดังกล่าวเอาอย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้ารับการรักษาในห้อง ICU ทางโรงพยาบาลมีการส่งยอดบิลมาเรียกเก็บกับคุณแม่ของเธออยู่บ่อยครั้งซึ่งครั้งแรกให้จ่ายสามแสน บาทครั้งต่อมาก็มีการเรียกเก็บเพิ่มโดยรวมยอดทั้งหมดที่ต้องจ่ายนั้นอยู่ที่ 500,000 บาท

            โดยคุณแม่ของเธอต้องหาเงินไปตายเนื่องจากว่ามีเหตุการณ์ถังออกซิเจนมีปัญหาซึ่งคุณแม่ของเธอกลัวว่าอาจจะเกิดจากที่จ่ายเงินให้กับโรงพยาบาลล่าช้าจึงรีบนำเงินไปจ่ายทันทีแต่เพียงไม่กี่วันพ่อของเธอก็เสียชีวิตในช่วงเวลา 3:00 น ของวันที่ 9 เดือนพฤษภาคมหลังจากนั้นทางโรงพยาบาลแจ้งยอดให้เก็บอีก สองแสนบาทโดยระบุว่าหากไม่จ่ายเงินจำนวนนี้จะไม่สามารถนำศพออกจากโรงพยาบาลและจะไม่มีการออกใบรับรองการมรณะบัตรให้

        อย่างไรก็ตามเธอมองว่ายอดนี้ค่อนข้างสูงเกินไปเพราะยอดรวมทั้งสิ้นแล้วครอบครัวเธอต้องเสีย 7 แสนกว่าบาทเลยทีเดียวในขณะที่เธอก็รู้มาว่าทางรัฐบาลบอกว่าสามารถที่จะรักษาโรคโควิตได้ฟรีและเมื่อเธอติดต่อไปยังหน่วยงาน 1330 ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลให้ช่วยประสานงานให้ปรากฏว่าทางโรงพยาบาลยืนยันจะมีการเรียกเก็บยอดนี้โดยระบุว่าเธอเองนั้นมีการย้ายโรงพยาบาลเองซึ่งเธอยืนยันว่าสาเหตุที่ย้ายนั้นเป็นเพราะเต็มและจะได้มีการประสานงานให้โรงพยาบาลแรกออกมายืนยันข้อมูลให้เธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งขณะนี้คงต้องรอว่าโรงพยาบาลที่ 2 และรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ