เจ้าของบ้านช็อก หลังปล่อยให้สาวสวยเช่าบ้านอยู่กับสามี เจอสภาพบ้านเหมือนผีสิงพร้อมยังค้างค่าไฟอีก 40,000 บาท

      สำหรับธุรกิจที่ปล่อยให้เช่าห้องพักหรือเช่าบ้านพักนั้นปัจจุบันนี้เรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยครั้งว่าผู้เช่านั้นได้หนีเดี๋ยวจ่ายค่าเช่านอกจากนี้บางแห่งนั้นยังค้างค่าน้ำค่าไฟอีกหลายพันหลายหมื่นบาทกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามข่าวส่วนใหญ่ที่เราเห็นในปัจจุบันนอกจากจะมีปัญหาเรื่องของผู้เช่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าและหลบหนีไปแล้วยังเจอกับปัญหาว่าผู้เช่านั้นมักสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของบ้านด้วยกัน

ทำให้บ้านนั้นสกปรกซึ่งเรามักจะเห็นเจ้าของห้องเช่าหรือบ้านเช่าโพสต์ภาพสภาพบ้านหลังจากเข้ามาดูเมื่อผู้เช่าหนีไปแล้วให้เห็นอยู่เป็นประจำ

      ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งระบุว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าของบ้านเช่าซึ่งเธอนั้นปล่อยเช่าบ้านแถวถนนประชาอุทิศให้กับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นสาวสวยหน้าตาดีมาขอเช่าทำสัญญา 3 ปี

 

และได้อยู่กับสามีของเธออย่างไรก็ตามในช่วงแรกที่มาอยู่นั้นผู้เช่าจ่ายค่าเช่าตรงทุกเดือนแต่หลังอยู่ได้เพียงแค่ประมาณ 10 เดือนเท่านั้นผู้เช่าก็ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่าห้องทำให้เจ้าของห้องเช่านั้นได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปดูเนื่องจากติดต่อผู้เช่าไม่ได้แต่เมื่อไปถึงก็พบสภาพบ้านที่เละเทะเป็นอย่างมาก

            นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เช่านั้นได้ค้างทั้งค่าไฟและค่าน้ำนานกว่า 9 เดือนซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้นเป็นเงินกว่า 40,000 บาทและที่สำคัญทางการไฟฟ้าและการประปาก็ได้มีการมาถอดมิเตอร์ไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

         สำหรับสภาพบ้านที่หญิงสาวคนดังกล่าวนำมาโพสต์ในโลกออนไลน์นั้นเรียกได้ว่าเละเทะเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าประตูบ้านนั้นถูกทุบทำลายนอกจากนี้ยังมีการเอาสีมาเขียนตามผนังและนำมาพ่นตามประตูและฝาผนังอีกด้วย  ส่วนบริเวณกระเบื้องชั้น 1 ก็พบว่ามีการเอาปูนมาเททับ

  และสิ่งที่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกร้อนเป็นอย่างมากก็คือประตูหน้าบ้านทางเข้านั้นมีการ เขียนอักขระโบราณเอาไว้เป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่เรียกได้ว่าตั้งแต่หน้าประตูไปจนถึงภายในบริเวณบ้านทั้งหมดนั้นสภาพดูไม่ได้เสียหายหมดทุกจุดทำให้เจ้าของบ้านนั้นรู้สึกช็อกเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

       อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านยังได้มีการโพสต์เพิ่มเติมด้วยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอขาดรายได้ไปหลายเดือนเลยทีเดียวเพราะเธอนั้นจะต้องมีการปรับปรุงบ้านใหม่ทั้งหมดทำการ Renovate ใหม่

ซึ่งเธอมองว่าการ Renovate ใหม่ในครั้งนี้นั้นเธออาจจะต้องเสียเงินอีกหลายแสนบาทนอกจากนี้เธอยังต้องไปทำการเคลียร์เรื่องของค่าน้ำค่าไฟอีกหลายหมื่นบาทอีกด้วย

       อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านได้มีการระบุว่าในขณะนี้เธอได้นำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นยังไม่ได้มีการแจ้งความคืบหน้าในเรื่องของการติดตามตัวสองสามีภรรยามาดำเนินคดีแต่อย่างใด 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

          เป็นเรื่องราวของคุณยายอายุ 70 ปีท่านหนึ่งซึ่งคุณยายท่านนี้เป็นคนเมืองหนานหนิงประเทศจีนโดยเรื่องราวของคุณยายนั้นถูกเผยแพร่ลงเว็บไซต์ของ ettoday เมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565   สำหรับเรื่องราวของคุณยายวัย 70 ปีที่มีการนำไปโพสต์ลงในโซเ****ลจนเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก

นั้นสาเหตุเนื่องมาจากว่าคุณยายท่านนี้ถูกทางนิติบุคคลของอพาร์ทเม้นท์ที่คุณยายอาศัยอยู่มีการเรียกเก็บค่าบริการในการใช้ลิฟท์หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการเรียกเก็บค่าปรับในการใช้ลิฟท์

หญิงชราวัย 70 ปีถูกปรับเงิน เป็นจำนวนสูงถึง 28736 หยวน ซึ่งถ้าหากคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่เราราวๆประมาณ 1.47 ล้านบาทเลยทีเดียว 

        สำหรับสาเหตุที่คุณยายวัย 70 ปีถูกทางนิติบุคคลของอพาร์ทเม้นท์มีการเรียกเก็บเงินค่าปรับในการใช้ลิฟท์นั้นสาเหตุเนื่องมาจากว่าทางผู้อยู่อาศัยในอพาร์ทเม้นท์เดียวกับคุณยายได้มีการร้องเรียนไปทางนิติบุคคลเกี่ยวกับการใช้ลิปของคุณยายวัย 70 ปีว่ามีการใช้ลิฟท์ทุกวันและในแต่ละวันนั้นก็มีการใช้ลิฟท์ค่อนข้างนานที่สำคัญคุณยายมากขนขยะเข้ามาภายในลิฟท์ทำให้ลิฟท์นั้นส่งกลิ่นเหม็นทำให้เพื่อนบ้านซึ่งอยู่อาศัยภายในอพาร์ทเม้นท์เดียวกันต่างก็รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของคุณยาย

         อย่างไรก็ตามจากการร้องเรียนของเพื่อนบ้านหลายคนที่เข้าไปร้องเรียนทำให้คณะกรรมการของนิติบุคคลของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวเข้ามาทำการตรวจสอบโดยมีการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังไปนานถึง 8 ปีซึ่งพบว่าคุณยายมีการใช้ลิฟต์ของอพาร์ตเมนต์ทุกวันและที่สำคัญเมื่อมีการคำนวณดูแล้วพบว่าวันนึงคุณยายใช้ลิฟท์ไม่ต่ำกว่า 60 ครั้ง

เลยตลอดระยะ 8 ปีที่ผ่านมาดังนั้นทางคณะกรรมการจึงมีความคิดเห็นตรงกันว่าคุณยายจะต้องมีการถูกเรียกเก็บเงินค่าปรับ  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย    เนื่องจากว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับทางเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกันและมีการใช้งาน ลิฟต์  ของอพาร์ทเม้นท์มากเกินกว่าปกติธรรมดาทั่วไป ซึ่งเงินที่เรียกเก็บนั้นทางนิติบุคคลคิดเป็นค่าเสื่อมสภาพการใช้งานลิฟต์นั่นเอง

         อย่างไรก็ตามคุณยายวัย 70 ปีมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับเธอเนื่องจากว่าเธอเองนั้นก็จ่ายเงินค่าส่วนกลางต่างๆครบอยู่ตลอดเวลาและเธอก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใครส่วนขยะที่เธอเก็บมานั้นเธอก็ทำความสะอาดเป็นอย่างดีไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน

        สำหรับในมุมมองของเพื่อนบ้านนั้นการที่คุณยายวัย 70 ปีขนขยะขึ้นไปในลิฟท์และใช้ลิฟต์เป็นระยะเวลานานๆเป็นการรบกวนเพื่อนบ้านเป็นอย่างมากก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาเพื่อนบ้านเคยแนะนำให้คุณยายใช้บริเวณที่จอดรถใต้ดินของอพาร์ทเม้นท์ในการใช้เป็นสถานที่ในการเก็บขยะแต่คุณยายนั้นไม่ดูแลสถานที่ให้ดีทำให้มีกลิ่นเหม็นและมีแมลงหลังจากนั้นก็มีคนมาต่อว่าจนคุณยายเลิกใช้ลานจอดรถแล้วนำขยะไปเก็บไว้บนห้องของตนเองแทนจนเป็นที่มาของการใช้ลิฟต์เป็นระยะเวลานานนั่นเอง

 เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับพฤติกรรมของเพื่อนบ้านซึ่งอาจจะเจอทั้งพฤติกรรมที่ดีและอาจจะเจอทั้งพฤติกรรมที่ไม่ดี

สาวแฉ พฤติกรรมเพื่อนบ้านแอบลอบใช้น้ำ  ซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะได้ยินข่าวสารเกี่ยวกับเพื่อนบ้านมักทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำส่วนหนึ่งก็มาจากความเห็นแก่ตัวของเพื่อนบ้านที่มักจะสร้างปัญหาให้กับบ้านคนอื่นๆเช่นอาจจะมีการจอดรถขวางหน้าบ้านของบุคคลอื่นหรือบางทีเป็นหนักถึงขนาดที่เอารถไปจอดบริเวณที่จอดรถของบ้านของเพื่อนบ้านมาแล้วก็มี

       อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยเจอพฤติกรรมของเพื่อนบ้านเหมือนกับหญิงสาวรายนี้มาก่อนซึ่งเธอได้ออกมาแฉพฤติกรรมของเพื่อนบ้านของเธอที่เธอเองก็เพิ่งเคยประสบพบเจอมาโดยเธอนั้นมีการแชร์ไว้ใน Facebook เมื่อวันที่ 11 เดือนเมษายนปีพศ. 2565

หญิงสาวรายนี้ได้มีการเล่าว่า  บ้านของเธอนั้นได้มีการสร้างก๊อกน้ำเอาไว้บริเวณกำแพงข้างบ้านเนื่องจากว่าเอาไว้รดน้ำต้นไม้อย่างไรก็ตามเธอมากสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เธอไม่อยู่บ้านบริเวณพื้นซึ่งเป็นจุดที่มีการติดตั้งก๊อกน้ำนั้นมักจะเปรียบแต่ถ้าหากเธออยู่บ้านพื้นจะแห้ง  ซึ่งเธอและคนในครอบครัวก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ได้ออกมาเฉลยหลังจากที่ทุกคนออกไปนอกบ้านแล้วบังเอิญว่าน้องเขยของเธอนั้นกลับมาที่บ้านเพื่อทำการเก็บผ้าที่ตากเอาไว้แล้วบังเอิญมาเจอภาพซึ่งเป็นภาพที่เพื่อนบ้านซึ่งเป็นหญิงสูงวัยมายืนอยู่ตรงบริเวณกำแพงบ้านโดยมีการยื่นแขนผ่านทางช่องตรงบริเวณกำแพงบ้านเข้ามาฝั่งของบ้านเจ้าของโพสต์ด้วยในมือนั้นได้

มีการถือสายยางเอามาด้วยและพยายามที่จะเอื้อมมือต่อสายยางในบ้านของหญิงชราเข้ากับก๊อกน้ำบ้านของเจ้าของโพสต์นั่นเองทำให้เจ้าของโพสต์ทราบว่าสาเหตุที่พื้นบ้านเปียกอยู่เสมอตอนที่ตนเองไม่อยู่บ้านนั้นเกิดจากที่เพื่อนบ้านลักลอบใช้งานหน้าบ้านของตนเองมาโดยตลอด

       อย่างไรก็ตามหญิงสาวเจ้าของโพสต์ระบุว่าน้องเคยส่งเธอนั้นได้มีการแอบถ่ายคลิปแล้วเอามาให้เธอดูซึ่งปัจจุบันนี้ทางด้านเพื่อนบ้านที่เป็นหญิงชราก็ยังไม่ทราบว่าเธอและคนในครอบครัวของเธอทราบแล้วว่าหญิงชราแอบลักลอบใช้งานบ้านของเธออย่างไรก็ตามเธอระบุว่าเธอแค่เอาพฤติกรรมของเพื่อนบ้านมาแชร์ในโลกออนไลน์เท่านั้นและเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้โกรธเพื่อนบ้านแต่เธอแค่งงเฉยๆว่าทำไมเพื่อนบ้านถึงมาแอบลักลอบใช้น้ำบ้านของคนอื่นโดยที่ไม่มีความรู้สึกละอายแก่ใจ

          เบื้องต้นหลังจากที่คลิปนี้มีการเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็มีคนเข้ามาคอมเม้นและแสดงความคิดเห็นมากมายซึ่งหนึ่งในคอมเม้นนั้นก็คือแนะนำให้เธอย้ายจุดเปลี่ยนก๊อกน้ำแทนที่จะไปต่อว่าเพื่อนบ้านเพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก 

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

           เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งไปร้องขอความช่วยเหลือจากสสพรรคเศรษฐกิจไทยเนื่องจากว่าถูกสามีซึ่งเป็นลูกชายของอดีตอัยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บแล้วถูกข่มขู่  ซึ่งทางด้านไผ่วันพอยท์ซึ่งเป็นสสพรรคดังกล่าวก็ได้ให้ความช่วยเหลือพาไปแจ้งความดำเนินคดีโดยมีการพามาที่ สน. สุทธิสารเมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 

        สาวป่วยซึมเศร้าถูกสามี หญิงสาวคนดังกล่าวได้เล่าเหตุการณ์ให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่าสามีของเธอนั้นเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำซึ่งพวกเธอรู้จักและแต่งงานกันมานานกว่า 5 ปีแล้วมีลูกด้วยกัน 3 คนคนเล็กสุดอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้นอย่างไรก็ตามช่วงประมาณปลายปีพศ2563 สามีของเธอเริ่มปันใจไปมีผู้หญิงคนอื่นในขณะเดียวกันก็เริ่มทำร้ายร่างกายเธอ  สุดท้ายแล้วเธอทนไม่ไหวจึงได้ตัดสินใจขอแยกตัวออกมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง 

       ผู้เสียหายยังได้เล่าเพิ่มเติมได้ว่าหลังจากที่เธอมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งปรากฏว่าแม่สามีได้มาขอร้องให้เธอกลับไปอยู่เพื่อไปดูแลลูกๆทั้ง 3 คนซึ่งตอนที่เธอย้ายออกมานั้นเธอออกมาตัวคนเดียวลูกทั้งสามคนยังอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวของสามีดังนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านของสามีเพื่อไปเลี้ยงลูกแต่อยู่โดยลักษณะของการแยกห้องกันอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันทางพฤตินัย

       ผู้เสียหายเราเพิ่มเติมด้วยว่านับตั้งแต่เธอถูกสามีทำร้ายร่างกายชวนหาเรื่องทะเลาะอยู่บ่อยครั้งก็ทำให้เธอนั้นกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจนต้องไปรักษาอาการป่วยแต่สามีนั้นไม่เชื่อว่าเธอป่วยโดยคิดว่าเธอนั้นหาข้ออ้างในการออกไปหาหมอและคิดว่าเธอนั้นเป็นคนคิดเองเออเองว่าตนเองนั้นป่วย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย     ซึ่งสามีเมื่อรู้ว่าเธอไปรักษาอาการป่วยก็ยิ่งข่มขู่และทำร้ายร่างกายเธอนอกจากนี้ยังขู่ไม่ให้เธอแจ้งความถ้าหากว่าเธอแจ้งความจะทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ซึ่งในขณะนั้นเธอได้กินยารักษาอาการป่วยของเธอจึงมีอาการง่วงนอนกำลังอยู่ในอาการสะลึมสะลือปรากฏว่าสามีกลับมาจากข้างนอกเมื่อมาถึงบ้านก็ชวนเธอทะเลาะนอกจากนี้ยังลากเธอเข้าไปในห้องซึ่งภายในห้องนั้นมีลูกวัย 5 ขวบนั่งอยู่ด้วยและได้เห็นว่าพ่อตนเองนั้นทำร้ายแม่ด้วยการทุบตีซึ่งเธอมีบาดแผลการถูกทำร้ายตามร่างกายหลายแห่ง

          นอกจากนี้จมูกยังหักและนิ้วข้างขวาฉีกขาดอีกด้วยเธอทนไม่ไหวจึงได้นำหลักฐานการถูกทำร้ายร่างกายแจ้งความดำเนินคดีโดยมีคลิปเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าคนร้ายนั้น เป็นถึงอดีตลูกอัยการเธอเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้ติดต่อกับไผ่วันพอยท์ให้ช่วยประสานงานในการเข้าแจ้งความดำเนินคดี 

       หมู่บ้านหรู ถูกโจรปล้น  เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ. บางแม่นาง   จังหวัดนนทบุรีได้รับการร้องทุกข์จากเจ้าของบ้านจำนวนมากกว่า 10 หลังให้ช่วยจับกุมคนร้ายที่เข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน

โดยเจ้าทุกข์ที่ถูกขโมยทรัพย์สินนั้นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีซึ่งหมู่บ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มีจำนวนทั้งหมด 380 หลังด้วยกันมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีบ้านทุกหลังเป็นบ้านหรูระดับราคา 5-8 ล้านบาทนอกจากนี้ยังมีรปภดูแลความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง

และมีกำแพงสูงมากกว่า 4 เมตรล้อมรอบหมู่บ้านรวมถึงทางเข้าออกนั้นก็เป็นทางเข้าออกทางเดียว รปภ. จะต้องมีการตรวจสอบผู้ที่เข้าและออกโดยจะต้องมีการแลกบัตรรวมถึงจะต้องมีการปั๊มตราประทับหากไม่ใช่เจ้าของบ้าน 

           อย่างไรก็ตามปรากฏว่าช่วงประมาณต้น ปี พ.ศ .2564 มีบ้านในหมู่บ้านหลังดังกล่าวจำนวน 10 กว่าหลังถูกโจรขโมยเข้าไปขโมยลักทรัพย์สินซึ่งบ้านระวังหลังนั้นก็สูญเสียเพียงแค่หลักพันเท่านั้น

แต่บางหลังนั้นก็สูญเสียเป็นจำนวนหลักแสนบาทเลยก็มีโดยมีเจ้าของบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่าคนร้ายมักจะทิ้งร่องรอยเอาไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยเท้าซึ่งเป็นลักษณะของการสวมใส่รองเท้าคอมแบทแต่ถึงแม้จะมีร่องรอยการเข้าไปขโมยทรัพย์สินแต่ถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

           นอกจากนี้ทั้งด้านเจ้าของบ้านที่เคยถูกขโมยเข้าไปขโมยทรัพย์สินนั้นยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยส่วนใหญ่จะเป็นทรัพย์สินขนาดเล็กเช่นเงินสดหรือไม่ก็เป็นสร้อยคอทองคำแต่ถ้าเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่อย่างพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆยังคงมีอยู่ดังนั้นบ้านที่ถูกขโมยทรัพย์สินส่วนใหญ่จึงมาวิเคราะห์กันว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านที่รู้การเคลื่อนไหวเข้าออกของคนในหมู่บ้านเนื่องจากว่ามีบ้านหลังหนึ่งที่ถูกขโมยทรัพย์สินไปโดยบ้านหลังดังกล่าวนั้นปกติแล้วเจ้าของบ้านจะทำงานแบบ work from home

ไม่ได้เดินทางออกไปนอกบ้านแต่ปรากฏว่ามีอยู่วันหนึ่งที่ต้องขับรถออกไปข้างนอกหลังจากออกไปไม่นานแล้วกลับเข้ามาก็พบว่าบ้านถูกงัดและขโมยทรัพย์สินไปนั่นแสดงว่าขโมยต้องรู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเจ้าของบ้านออกจากบ้านเป็นช่วงเวลาไหน  หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องมีคนในหมู่บ้านคอยให้ข้อมูลกับคนร้ายว่าจะต้องเข้ามาขโมยทรัพย์สินบ้านหลังไหนและช่วงเวลาไหนนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ทำให้ทางหมู่บ้านจำเป็นที่จะต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านทั้งหมดเพื่อทำการช่วยเหลือตัวเองก่อนส่วนบ้านหลังอื่นๆของลูกบ้านนั้นก็มีการติดกล้องวงจรปิดและสัญญาณกันขโมยในหมู่บ้านของตนเองเป็นการป้องกันเบื้องต้นก่อนแต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด 

 

สนับสนุนโดย.  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

     เป็นกระแสโด่งดังข้ามทวีปกันเลยทีเดียวกับปัญหาเรื่องของถุงมือยางที่บริษัทแห่งหนึ่งของไทยมีการส่งออกไปขายยังประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ปัญหาเกิดขึ้นก็คือถุงมือยางที่ถูกนำไปขายที่อเมริกานั้นเป็นถุงมือยางที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานและเป็นถุงมือยางมือสองที่มีการใช้งานแล้วแล้วถูกนำมาย้อมแมวขายด้วยการย้อมสีใหม่  CNN รายงานข่าวไทย  ส่งออกขายไปยังต่างประเทศ

        ซึ่งในขณะนี้มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว CNN ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังของต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีการเปิดเผยไปเมื่อวันที่ 25 เดือนตุลาคมปีพศ 2564 เนื่องจากบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ติดต่อสั่งซื้อถุงมือยางจากบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ซึ่งบริษัทของไทยนั้นชื่อว่า Paddy  the room  โดยลูกค้าชาวสหรัฐอเมริการายนี้มีการสั่งซื้อไปเป็นจำนวนกว่า 200 ล้านชิ้นแล้วนำไปขายต่อให้บริษัทอื่นๆในอเมริกาซึ่งหลังจากบริษัทที่ได้รับถุงมือไปใช้งานพบว่าถุงมือบางอันก็เปื้อนเลือดหรือแม้แต่มีเปื้อนดิน ทำให้มีหลายที่ที่ได้รับถุงยางไปไม่ได้ถุงยางไปใช้งานแต่เอาไปขายต่อในราคาที่ถูก  

      เรื่องนี้ทำให้บริษัทในสหรัฐอเมริกาที่มาสั่งซื้อถุงยางกับไทยนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมากเขาได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อทำการพูดคุยกับเจ้าของผู้ผลิตถุงมือยางโดยจะทำเรื่องขอคืนเงินแต่ปรากฏว่าตกลงเจรจากันไม่ได้และมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น เจ้าของบริษัท Paddy  the room  ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย

และทำให้คู่ค้าถูกจับกุมแต่ท้ายที่สุดก็ถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับประเทศอเมริกาและไปตีแผ่เปิดเผยปัญหาที่เขาค้นพบโดยเขาเชื่อว่าเมื่อสังคมรับทราบ  โดยหวังว่าเรื่องนี้ จะทำให้ทางรัฐบาลของสหรัฐอเมริกามีความคมเข้มเรื่องของการนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องมือแพทย์ให้มากขึ้น

         เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการระบาดของไวรัสโควิคอย่างหนักทำให้รัฐบาลสหรัฐได้ปรับลดการคุมเข้มเรื่องสินค้านำเข้าลงเพราะต้องการใช้ถุงมือยางและอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย   นั่นเอง  

       อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมากซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเองก็ได้มีการเข้าไปบุกจับกุมโรงงานแห่งหนึ่งแถว ปริมณฑลซึ่งเช่าไว้สำหรับเปิดเป็นโรงงานผลิตถุงมือยางแต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบว่ามีการนำถุงมือยางเก่าที่ใช้แล้วมาย้อมสีแล้วใส่กล่องส่งขายออกต่างประเทศ

โดยกล่องเป็นของบริษัทศรีตรังซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยที่มีชื่อเสียงเรื่องของการผลิตถุงมือยางที่ได้มาตรฐานโดยในครั้งนั้นทางบริษัทศรีตรังได้ออกมาปฏิเสธว่าโรงงานดังกล่าวนั้นไม่ใช่ของตนเองซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบค้นดูก็พบว่ามีคนชาวฮ่องกงเป็นผู้ติดต่อเช่าโกดังดังกล่าวและเป็นเจ้าของบริษัทPaddy  the room นั่นเอง 

     หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.5  มีองค์กรเอกชนที่ชื่อว่า  Crimat  Central  ได้มีการแสดงภาพจำลองเมื่อเมืองต่างๆทั่วโลก จะมีสภาพจมน้ำถ้าหากว่าปัญหาโลกร้อนเนี่ยทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส

  ตามข้อตกลงปารีสแก้ปัญหาโลกร้อนในปี 2015 ประเทศต่างๆตกลงว่าจะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยไม่ให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 25 องศาเซลเซียสของระดับอุณหภูมิโลกก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม คือดีที่สุดก็คือไม่ให้เกินมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส   

       นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์กันว่าอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นเลยเกิน 1.5 องศาเซลเซียสนั้นจะเป็นอันตรายเพียงใด

โดยโลกจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงขึ้นจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหรือไคลเมทเชนจ์ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนป่าและระบบนิเวศโลก     กลุ่ม Crimat  Central  จึงได้จัดทำภาพจำลองตามการคาดการณ์และผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จะแสดงผลกระทบในระยะยาวของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะต่างๆอันเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

        หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้บริหารสูงสุดของทาง  Crimat  Central  ระบุว่าหากเราสามารถจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียสได้จะสามารถช่วยชีวิต

เมืองส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ที่แนวชายฝั่งทั่วโลกได้เล่นเอง      แต่ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 3 องศาเซลเซียสจากการวิเคราะห์แล้วเนี่ยเมืองใหญ่กว่า 50 เงินทั่วโลกที่ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมเลยทีเดียว  ดังนั้นในหลายประเทศจำเป็นที่จะต้องหามาตรการป้องกันอย่างมาก

       อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนหรือว่าต้องทิ้งเมืองไปแล้วตึกสูงตึกระฟ้าอาจจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ   แต่ถ้าหากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียสจะยังคงสามารถจำกัดระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้นในระดับประมาณไม่กี่ฟุตได้ในช่วงศตวรรษนี้แต่ก็ยังถือว่ามีผลกระทบหนักอยู่ดี    สำหรับประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ  หรือว่าเมืองชายฝั่ง จะถูกน้ำท่วมและพื้นที่ชายฝั่งถูกกัดเซาะ แต่ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส 

    เมื่อไหร่นักวิทยาศาสตร์ก็เตือนว่าแผ่นน้ำแข็งจะพังทลายทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 10 เมตรหรือ 30 ฟุตแต่ยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้แน่นอนว่าจะจัดการเช่นนี้ มันจะเกิดขึ้นเร็วหรือว่าช้ามากแค่ไหน และถ้าหากอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น 2.7 องศาเซลเซียส สภาพอากาศจะร้อนจัดมากจนคนไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแถบพื้นที่เขตร้อนและพื้นที่กลุ่มเขตร้อนของโลก

     ความหลากหลายทางชีวภาพถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วความมั่นคงทางอาหารจะลดลงสภาพอากาศดูดแรงสุดขั้วจะรุนแรงมากขึ้นอีกจนเกินศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองส่วนใหญ่ที่จะต้านทานกว่า  ขณะนี้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้นไปแล้วประมาณ 1.1 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับอุณหภูมิโลกก่อนยุคอุตสาหกรรม  ดังนั้นเราควรที่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการลดโลกร้อนได้แล้วในตอนนี้ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

       จากกรณีที่มีการรายงานข่าวเมื่อวันที่ 19 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564    ซึ่งมีนักธุรกิจชื่อดังได้มีการออกมาโพสต์ Facebook ตามหาเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีการระบุสียี่ห้อรวมถึงเลขทะเบียนรถเอาไว้อย่างชัดเจนพร้อมทั้งมีภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดทางหน้ารถและด้านหลังของตัวรถ โดยให้ชาวโซเชียลนั้นช่วยกันออกตามหาชายคนดังกล่าวเพราะเหตุนั้นก็เพราะว่ารถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวนั้นได้มีการขับรถเฉี่ยวชนของนักธุรกิจชื่อดังเงินเอง

          อย่างไรก็ตามนักธุรกิจคนดังกล่าวได้มีการพูดผ่านทางสื่อพร้อมทั้ง Facebook ของตนเองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะไม่เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยถ้าหากว่าผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนรถของตนเองนั้นจะไม่ขับรถหนีและออกมาแสดงความรับผิดชอบและเรื่องนี้เขาต้องการให้รถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวมาแสดงความรับผิดชอบเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายคนในการขี่รถบนท้องถนนให้มีความระมัดระวังมากกว่านี้

          สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อรถหรูของนักธุรกิจชื่อดังซึ่ง เป็นรุ่น McLaren 720S โดยมีราคาสูงถึง 35 ล้านบาทถูกรถมอเตอร์ไซค์ขับเฉี่ยวชนบนท้องถนนและมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเอาไว้ได้โดยเจ้าของธุรกิจมองว่ารถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวไม่ได้มีการจอดรถเพื่อจะลงมาขอโทษหรือดูความเสียหายที่ตนเองนั้นได้สร้างขึ้นดังนั้นเขาจึงต้องการให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบโดยเขามีการนำหลักฐานไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวนี้มีการนำเสนอผ่านทางสื่อทุกช่องทางปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับทางด้านนักธุรกิจเจ้าของรถหรูเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนนั้นมีอายุเพียงแค่ประมาณ 20 ปีเท่านั้นซึ่งกล่าวขอโทษนักธุรกิจคนดังโดยบอกว่าที่ตนเองขับรถไปนั้นเนื่องจากว่าอยู่ในอาการตกใจและที่สำคัญดังกล่าวนั้นเป็นรถของคุณแม่ซึ่งตัวเขาเองนั้นยังไม่มีใบขับขี่  อย่างไรก็ตามในการติดต่อเข้ามาในครั้งนี้เขายินดีที่จะแสดงความรับผิดชอบทุกอย่าง

         ให้หลังจากที่นักธุรกิจได้พูดคุยกับผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วทางด้านนักธุรกิจก็ได้มีการตักเตือนชายที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์พร้อมทั้งระบุอีกว่าครั้งนี้ขอให้เป็นบทเรียนในการขับขี่รถบนท้องถนนซึ่งในครั้งนี้มูลค่าความเสียหายเฉพาะแค่การทำสีอย่างเดียวนั้นก็ตกอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทเนื่องจากว่าเป็นรถนำเข้าและอะไหล่ทุกชิ้นจะต้องมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งเป็นจำนวนการซ่อมที่ค่อนข้างสูง

     ซึ่งนักธุรกิจคนดังเห็นว่าเมื่อ คนขี่ยอมรับผิด ตัวเขาเองก็เห็นใจและพร้อมให้อภัย ส่วนค่าซ่อมเขาจะเป็นจ่ายเงินค่าซ่อมเอง และนี่แสดงให้เห็นว่าคนไทยจิตใจดียังมีอยู่ในสังคม

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย