ถูกมิจฉาชีพหลอกเงิน 7แสน ในช่วงประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีแก๊งมิจฉาชีพระบาดอย่างหนักโดยการวิชาชีพเหล่านี้นั้นมีทั้งคนไทยที่หลอกกันเองและยังมีชาวต่างชาติที่เป็นการตั้งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเข้ามา

ซึ่งหลายครั้งที่มีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็น Social Media หรือแม้แต่สื่อทีวีรวมถึงสิ่งพิมพ์แต่ไม่ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์มากแค่ไหนแต่คนไทยก็ยังคงถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงอยู่เสมอโดยวิธีการของแก๊งมิจฉาชีพที่มาหลอกนั้นก็จะมีวิธีการแตกต่างกันออกไป

     ล่าสุดเด็กสาววัย 17 ปีถูกแก๊งมิจฉาชีพติดต่อมาให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ที่ชื่อ Vantage เป็น Application สำหรับการลงทุนและยืนยันว่าจะได้รับเงินค่าตอบแทนจากเงินที่ลงทุนไป 10% ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา  เด็กสาวคนดังกล่าวได้มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและทดลองลงทุนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000 บาทด้วยกัน

ซึ่งปรากฏว่าได้รับเงินตอบแทนมาจริงเป็นเงินปันผลจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์คิดเป็นเงิน 300 บาท  ทำให้เด็กสาววัย 17 ปีหลงเชื่อและเกิดความโลภคิดว่าถ้ายิ่งลงทุนเยอะก็จะได้ผลตอบแทนเยอะดังนั้นจึงได้มีการลงทุนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ไปเรื่อยๆโดยการลงทุนนั้นก็เพิ่มจำนวนเงินมากขึ้น

          อย่างไรก็ตามเมื่อมีการลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้นปรากฏว่าเงินปันผลที่ควรจะสามารถถอนออกมาได้นั้นระบบมีการล็อกมิจฉาชีพจึงได้หลอกให้เด็กสาววัย 17 ปี

โอนเงินเข้ามาเพื่อทำการปลดล็อคเพื่อที่จะได้สามารถเบิกเงินปันผลได้ซึ่งหญิงสาวได้มีการหลงเชื่อโอนเงินไปทั้งสิ้น 7แสน บาทด้วยกันด้วยเงินทั้งหมดนั้นเป็นเงินของพ่อที่เก็บสะสมเอาไว้เพื่อที่จะเอาไปไถ่ถอนบ้านและที่ดิน ที่เคยนำไปจำนอง

         อย่างไรก็ตามเป็นเงินที่โอนไปนั้นปรากฏว่าเด็กสาวไม่สามารถที่จะทำการเบิกออกมาได้ไม่ว่าจะเป็นเงินที่มีการโอนเข้าไปลงทุนหรือแม้แต่เงินปันผล

นอกจากนี้มิจฉาชีพยังได้มีการบล็อกช่องทางการติดต่อทำให้เด็กสาวรู้แล้วว่าตนเองนั้นถูกหลอก ดังนั้นจึงได้มีการแจ้งให้ผู้เป็นพ่อทราบซึ่งผู้เป็นพ่อเองก็ได้พาลูกสาวไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีและให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความช่วยเหลือโดยมีการติดต่อไว้ที่สภ.เมืองเลย 

        อย่างไรก็ตามการถูกหลอกให้โอนเงินเข้าไปบัญชีของแกมิจฉาชีพในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกวันบางคนถูกหลอกระดับหมื่นบาทบางคนทุกระดับแสนบาทและถูกหลอกระดับล้านบาทก็มีและทุกครั้งที่มีการแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถที่จะจับกุมมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้และเงินที่ถูกโอนไปนั้นก็จะสูญไม่สามารถที่จะดึงเงินกลับคืนมาได้

         ดังนั้น เราจึงควรระมัดระวังไม่ควรตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและไม่ควรเกิดความโลภมาก  นอกจากนี้ควรติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสำคัญสำคัญ และจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกับเด็กสาววัย 17 ปีรายนี้ 

 

สนับสนุนโดย    UFABET เว็บตรง

        สาวแทบร้องไห้  หลวงพ่อใช้ปากกาเคมี  เชื่อว่าใครที่มีการออกรถใหม่สิ่งหนึ่งที่หลังจากที่ขับรถออกมาจากโชว์รูมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คือการขับรถเข้าไปในวัดซึ่งส่วนใหญ่แล้ว

ก็มักจะเลือกวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังหรือว่าที่ตนเองนับถือแล้วขับรถไปให้พระสงฆ์ที่ตัวเองนับถือช่วยทำการเจิมรถให้เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วการเจิมรถนั้นคนที่นำรถไปทำการเจิมจะต้องมีการเตรียมของไปด้วยนั่นก็คือน้ำอบแป้งดินสอพองดอกไม้ธูปเทียนเพื่อที่หลวงพ่อจะได้มีการประกอบพิธีและทำการเจิมรถยนต์ให้

         อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันบางคนไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้าซึ่งจะต้องเป็นหลวงพ่อหรือพระสงฆ์ที่ทำการเจิมรถนั้นเตรียมให้และปัญหาที่ตามมาก็คือบางครั้งหลวงพ่อเตรียมหาสิ่งของที่จะทำการเจิมไม่ทันนั่นก็คือดินสอพองกับน้ำอบทำให้หลายครั้งที่หลวงพ่อทำการเจิมรถด้วยการใช้ปากกาเคมีเขียนยันต์ไว้บนด้านในของหลังคารถซึ่งทำให้เจ้าของรถนั้นแทบจะร้องไห้เลยทีเดียวก็ว่าได้เพราะปากกาเคมีนั้นเราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันไม่สามารถที่จะลบออกได้ถ้าหากนำไปเขียนไว้กับอะไรแล้วนั่นเอง 

          ล่าสุดได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์คลิปลงใน Application tiktok

โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอไปออกรถใหม่ป้ายแดงออกมาเลยทีเดียวเมื่อวันที่ 6 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 และด้วยความเชื่อของคนไทยและความเชื่อของเธอเองหลังจากที่ออกรถใหม่มาแล้วเธอก็อยากที่จะให้รถของเธอนั้นขับไปไหนก็ราบรื่นมีแต่ความปลอดภัยเป็นความเป็นการเพิ่มความสิริมงคลให้กับตัวเองจึงได้มีการนำรถใหม่ป้ายแดงนั้นไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่อให้พระสงฆ์ทำการเขียนยันต์เจิมรถให้

            อย่างไรก็ตามในระหว่างที่หญิงสาวรายนี้ได้มีการถ่ายคลิปในขณะที่พระสงฆ์ทำการเจิมรถให้เธอพบว่ารถมินิมอลน่ารักของเธอนั้นถูกพระสงฆ์ใช้ปากกาเคมีเขียนยันต์ซึ่งทำให้เธอนั้นตกใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะสามารถที่จะลบยันต์ที่เขียนด้วยปากกาเคมีได้อย่างไรเธอจึงได้มีการโพสต์คลิปนี้ลงในโซเชียลเพื่อขอความคิดเห็นของทางโซเชียลถึงวิธีการลบ  

        อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจนั้นไม่ได้เป็นการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของวิธีการลบหมึกปากกาให้กับหญิงสาวรายนี้แต่เป็นการพูดถึงความคิดเห็นของคนไทยเกี่ยวกับเรื่องของการเจิมรถว่านเป็นความเชื่อของคนในสมัยโบราณซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งเจิมรถกันเพราะต่างประเทศเองก็ไม่เคยมีใครที่จะเอารถไปทำการเจิมกับพระสงฆ์และต่างประเทศเองก็ไม่ได้มีการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าประเทศไทยหรือเกิดกว่ามากกว่าประเทศไทยที่มีการเจิมรถเลย

            ดังนั้นถ้าหากต้องการความเป็นศิริมงคลขับรถไปไหนแล้วแค่ค่าปลอดภัยก็แค่ขับรถอย่างระมัดระวังและตั้งใจก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุเรานั่นเองไม่จำเป็นที่จะต้องเอารถมาเจิมจนทำให้รถนั้นเป็นรอยและไม่สามารถลบออกได้เหมือนกับหญิงสาวรายนี้

 

สนับสนุนโดย    ufabet