กำลังเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์เมื่อร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งซึ่งเปิดเป็นร้านเหล้าได้มีการโพสต์รูปภาพลงใน Instagram

ผับดังให้ลูกค้าแต่งตัวมาเที่ยว ของทางร้านส่งภาพที่เห็นนั้นเป็นภาพคล้ายกับมีพระภิกษุสงฆ์มานั่งอยู่ภายในบริเวณร้านเหล้า  อย่างไรก็ตามทางด้านร้านเหล้าได้มีการชี้แจงลงใน Instagram เพิ่มเติมไปภาพด้วยว่า เป็นภาพที่ลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านเหล้าร่วมกิจกรรมกับทางร้านซึ่งทางร้านนั้นได้มีการจัดกิจกรรมอาชีพในฝันขึ้นในวันที่ 27 เดือนสิงหาคมพ.ศ 2555 ซึ่งลูกค้าคนไหนที่จะมาร่วมกิจกรรมนั้นก็สามารถแต่งตัวตามตีนที่ทางร้านได้มีการกำหนดไว้

          อย่างไรก็ตามลูกค้าที่อยู่ในรูปภาพที่ทางร้านได้มีการนำมาโพสต์ลงใน Instagram นั้นได้มีการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งนี้และได้มีการแต่งตัวตามสไตล์คอนเสิร์ตที่ทางร้านได้มีการกำหนดไว้ซึ่งลูกค้าได้มีการแต่งชุดเดรสสีส้มแต่เนื่องจากว่าชุดนั้นมีความคล้ายคลึงกับชุดของพระสงฆ์และสีของชุดนั้นก็มีความคล้ายคลึงเป็นอย่างมาก  ซึ่งทางร้านเราเองก็ได้เก็บภาพราคาประทับใจที่ลูกค้าร่วมสนุกกับทางร้านลงนามเปิดเผยในโลกออนไลน์  

            อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวเกิดกลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นทันทีหลังจากที่มีคนเข้ามาเห็นภาพซึ่งในภาพคนที่มาร่วมงานแต่งชุดสีคล้ายกับพระสงฆ์นั้นหัวโล้นให้คนเห็นภาพนั้นรู้สึกไม่สบายใจว่ามีการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งในแต่ละวันก็มีคนมาชื่นชมเขาจะบอกทางร้านและขำๆกับภาพที่นำมาแชร์ในโลกออนไลน์

            อย่างไรก็ตามสำหรับดราม่าที่เกิดขึ้นนั้นเกิดมาจากมุมมองความคิดของแต่ละบุคคลซึ่งบางคนก็อาจจะมองว่าการแต่งตัวที่มองดูเผินๆแล้วคล้ายกับพระสงฆ์นั้นเป็นการไม่สมควรทำแต่บางคนก็มองว่าเป็นเพียงแค่การแต่งตัวเพื่อความตลกเพียงเท่านั้นไม่ควรที่จะซีเรียสให้มาก แต่

        อย่างไรก็ตาม Concept ของทางผับนี้ก็ให้ความรู้สึกประทับใจกับลูกค้าอยากจะมาใช้บริการที่ร้านค้าซึ่งถือได้ว่าเป็นการดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดีเพราะเชื่อได้เลยว่าหลังจากที่เรื่องราวดราม่าลูกค้าแต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์ในผับถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์จะต้องมีผู้คนเป็นจำนวนมากอยากลองไปเที่ยวที่ผับแห่งนี้ซึ่งการนำภาพกลุ่มดาม่าแข่งขันออกมาโพสต์ในโซเชียลของผับแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นการโปรโมทผับให้คนรู้จักมากขึ้นอีกทางหนึ่งได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวถึงแม้ว่าจะเกิดเป็นกระแสดราม่าแต่ทางผับเองก็ไม่ได้เสียหายกับกระแสดราม่าดังกล่าวนั้นเอง 

 

สนับสนุนโดย    gclub

           เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งไปร้องขอความช่วยเหลือจากสสพรรคเศรษฐกิจไทยเนื่องจากว่าถูกสามีซึ่งเป็นลูกชายของอดีตอัยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บแล้วถูกข่มขู่  ซึ่งทางด้านไผ่วันพอยท์ซึ่งเป็นสสพรรคดังกล่าวก็ได้ให้ความช่วยเหลือพาไปแจ้งความดำเนินคดีโดยมีการพามาที่ สน. สุทธิสารเมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 

        สาวป่วยซึมเศร้าถูกสามี หญิงสาวคนดังกล่าวได้เล่าเหตุการณ์ให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่าสามีของเธอนั้นเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำซึ่งพวกเธอรู้จักและแต่งงานกันมานานกว่า 5 ปีแล้วมีลูกด้วยกัน 3 คนคนเล็กสุดอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้นอย่างไรก็ตามช่วงประมาณปลายปีพศ2563 สามีของเธอเริ่มปันใจไปมีผู้หญิงคนอื่นในขณะเดียวกันก็เริ่มทำร้ายร่างกายเธอ  สุดท้ายแล้วเธอทนไม่ไหวจึงได้ตัดสินใจขอแยกตัวออกมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง 

       ผู้เสียหายยังได้เล่าเพิ่มเติมได้ว่าหลังจากที่เธอมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งปรากฏว่าแม่สามีได้มาขอร้องให้เธอกลับไปอยู่เพื่อไปดูแลลูกๆทั้ง 3 คนซึ่งตอนที่เธอย้ายออกมานั้นเธอออกมาตัวคนเดียวลูกทั้งสามคนยังอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวของสามีดังนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านของสามีเพื่อไปเลี้ยงลูกแต่อยู่โดยลักษณะของการแยกห้องกันอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันทางพฤตินัย

       ผู้เสียหายเราเพิ่มเติมด้วยว่านับตั้งแต่เธอถูกสามีทำร้ายร่างกายชวนหาเรื่องทะเลาะอยู่บ่อยครั้งก็ทำให้เธอนั้นกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจนต้องไปรักษาอาการป่วยแต่สามีนั้นไม่เชื่อว่าเธอป่วยโดยคิดว่าเธอนั้นหาข้ออ้างในการออกไปหาหมอและคิดว่าเธอนั้นเป็นคนคิดเองเออเองว่าตนเองนั้นป่วย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย     ซึ่งสามีเมื่อรู้ว่าเธอไปรักษาอาการป่วยก็ยิ่งข่มขู่และทำร้ายร่างกายเธอนอกจากนี้ยังขู่ไม่ให้เธอแจ้งความถ้าหากว่าเธอแจ้งความจะทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ซึ่งในขณะนั้นเธอได้กินยารักษาอาการป่วยของเธอจึงมีอาการง่วงนอนกำลังอยู่ในอาการสะลึมสะลือปรากฏว่าสามีกลับมาจากข้างนอกเมื่อมาถึงบ้านก็ชวนเธอทะเลาะนอกจากนี้ยังลากเธอเข้าไปในห้องซึ่งภายในห้องนั้นมีลูกวัย 5 ขวบนั่งอยู่ด้วยและได้เห็นว่าพ่อตนเองนั้นทำร้ายแม่ด้วยการทุบตีซึ่งเธอมีบาดแผลการถูกทำร้ายตามร่างกายหลายแห่ง

          นอกจากนี้จมูกยังหักและนิ้วข้างขวาฉีกขาดอีกด้วยเธอทนไม่ไหวจึงได้นำหลักฐานการถูกทำร้ายร่างกายแจ้งความดำเนินคดีโดยมีคลิปเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าคนร้ายนั้น เป็นถึงอดีตลูกอัยการเธอเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้ติดต่อกับไผ่วันพอยท์ให้ช่วยประสานงานในการเข้าแจ้งความดำเนินคดี 

       เชื่อว่าหลายคนคงกำลังจับตามองว่าท้ายที่สุดแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนจนได้ผลสรุปออกมาแล้วการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโมภัทรธิดานี้

    การเสียชีวิตของ แตงโม  นิดา  จะเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่เนื่องจากว่าผู้คนทั้งประเทศไม่มีความคิดเห็นว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้จะเกิดจากการที่เป็นอุบัติเหตุซึ่งหลายคนเชื่อว่าน่าจะมีลับลมคมในอะไรสักอย่างและผู้กระทำความผิดก็อยู่ในคนที่อยู่บนเรือพร้อมกับแตงโมภัทรธิดานั่นเอง

         อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นมีคนที่อยู่บนเรือทั้งสิ้นจำนวน 6 คนซึ่งรวมถึงแตงโมนิดาที่เป็นผู้เสียชีวิตด้วยแต่พฤติกรรมของคนบนเรือทั้ง 5 คนที่ออกมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็บอกว่าแตงโมนิดาตกเรือเองเนื่องจากว่าไปนั่งที่บริเวณท้ายเรือเพราะต้องไปทำธุระส่วนตัวทำให้ชาวโซเชียลต่างก็ไม่มีความเชื่อมั่นกับข้อมูลเหล่านี้นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าการที่เพื่อนของตนเองตกเรือแต่ทุกคนนั้นไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พักและหายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้จนเวลาผ่านไปวันกว่าๆจึงเดินทางเข้ามาที่สถานีตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและยังมีการนำทนายความมาด้วยทำให้หลายคนสงสัยถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของดาราสาวกันเป็นอย่างมากจนทำให้ชาวโซเชียลนั้นต้องออกมาวิเคราะห์ว่าการเสียชีวิตของดาราสาวนั้นน่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในเรือและไม่ใช่การเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุแต่อาจจะถูกฆาตกรรมก็เป็นไปได้ 

        สำหรับการวิเคราะห์ของชาวโซเชียลส่วนใหญ่มองว่าแตงโมนิดาน่าจะถูกผู้จัดการส่วนตัวหลอกให้มาขึ้นเรือโดยผู้จัดการส่วนตัวนั้นน่าจะมีการรับงานโดยที่ไม่บอกดาราสาวโดยงานที่รับมานั้นน่าจะเป็นงานที่ดาราสาวไม่อยากทำงานก็คืองานเอนเตอร์เทนนั่นเองแต่เมื่อดาราสาวขึ้นมาบนเรือแล้ว  ufabet    และมารู้ภายหลังว่าผู้จัดการมีการรับงานโดยที่ไม่บอกเธอและเป็นงานที่เธอไม่รับทำจึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นและอาจจะเกิดการยื้อแย่งกันเกิดขึ้นซึ่งอาจจะเกิดการพลัดตกเรือก็เป็นไปได้

        อย่างไรก็ตามแต่ชาวโซเชียลได้พยายามค้นหาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและมีการดูคลิปต่างๆมากมายจนทำให้เกิดการวิเคราะห์การล่าสุดว่าสาเหตุที่ดาราสาวเสียชีวิตนั้นอาจจะไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุของการตกเรือแต่อาจจะถูกคนบนเรือใช้ขวดแชมเปญตีหัวจนสลบแล้วถูกโยนทิ้งน้ำทำให้ดาราสาวนั้นไม่สามารถที่จะพยุงตัวเองว่ายน้ำเข้าไปที่ฝั่งได้และเสียชีวิตในที่สุดนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามข้อมูลต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงแค่มุมของการวิเคราะห์ของชาว Social ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไรคงต้องรอดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะมีการสรุปสำนวนคดีอย่างไรที่จะไม่ค้านความคิดของประชาชนและมีหลักฐานที่สามารถอ้างอิงได้ว่าสำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปออกมานั้นเป็นเรื่องจริงไม่ได้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพราะต้องการให้ผู้ต้องหาพ้นผิด