รปภ. หึงโหดฆ่าตัดคอเมีย เมื่อวันที่ 31 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ แมร์ไทม์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังของประเทศกัมพูชา   ซึ่งได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมรายหนึ่ง  โดยเป็นการฆาตกรรม หญิงสาวชาวกัมพูชาที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ  โดยเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้นั้นเป็นการฆาตกรรมที่สร้างความสยดสยองให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก 

           สำหรับคดีฆาตกรรม รายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2565  

      เนื่องจากว่า ได้มีพลเมืองดีได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพของ หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในห้องเช่าข้างๆกันถูกฆ่าปาดคอจนเสียชีวิต โดยเพื่อนบ้านเล่าว่าตอนที่พบศพนั้น พบแต่ร่างซึ่งมีแต่เลือดเต็มไปหมด นอนอยู่ที่พื้นในห้องเช่า แต่ไม่มีศรีษะ  อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านสงสัยว่าจะเป็นสามีของหญิงสาวรายนี้ที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเองเพราะในที่เกิดเหตุนั้นไม่พบสามีของผู้เสียชีวิตจึงคาดว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว

           อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านที่พบศพเป็นคนแรกให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามีภรรยาคู่นี้เพิ่งย้ายมาอยู่ห้องเช่าได้เพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น โดยทั้งคู่เดินทางมาเช่าห้องอยู่ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565    โดยฝ่ายหญิงนั้นมีอาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาดในขณะที่ฝ่ายชายนั้นมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย   

         อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่าสามีภรรยาคู่นี้มักจะทะเลาะกันเป็นประจำทุกวันโดยเพื่อนบ้านมักจะได้ยินเสียงทะเลาะทุกค่ำคืนแต่รุ่งเช้าทั้งคู่ก็จะกลับมาคืนดีกันโดยส่วนใหญ่สาเหตุของการทะเลาะกันนั้นมาจากฝ่ายชายหึงหวง   นอกจากนี้เพื่อนบ้านยังบอกอีกด้วยว่าสามีมักจะทำร้ายร่างกายภรรยาของตนเองอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะหลังจากทั้งคู่ทะเลาะกันก็มักจะคืนดีกัน 

         อย่างไรก็ตามล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถจับกุมฆาตกรได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา  ซึ่งฆาตกรรายดังกล่าวก็คือสามีของผู้เสียชีวิตนั่นเอง   โดยเขายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเองด้วยการใช้มีดปาดคอหลังจากนั้นก็นำศีรษะของภรรยาใส่ถุงกระสอบแล้วนำขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปทิ้งที่ถังขยะที่ใกล้กับหอพักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปที่อำเภอบาตี  จังหวัดตาแก้ว 

         จากการให้ข้อมูลของ  ฆาตกรรายนี้ระบุว่าสาเหตุที่ฆ่าภรรยานั้นเพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเหตุมาจากความหึงหวงเพราะคิดว่าภรรยานอกใจไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นที่รู้จักกันผ่านทางโซเชียลถึงแม้ว่าทางภรรยาของเขาจะปฏิเสธแล้วก็ตาม

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เว็บพนัน ufabet

           ที่จังหวัดนนทบุรี  ตรงบริเวณแถวตลาดปากเกร็ด  เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหกโมงเย็น  เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยพนักงานร้านอาหาร KFC ได้มีการประกาศเตือนไปยัง KFC สาขาอื่นๆให้ระมัดระวังพฤติกรรมของลูกค้าสาวรายหนึ่งซึ่งมีการย้อมผมเป็นสีทองเวลาเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว

จ่ายเงินเสร็จและพนักงานทอนเงินให้ลูกค้าจะมีอาการโวยวายขึ้นมาทันทีโดยหาว่าพนักงานนั้นให้เงินทอนตนเองไม่ครบ ซึ่งในความเป็นจริงพนักงานได้มีการถอนเงินให้ลูกค้านั้นครบตามจำนวน    โดยพฤติกรรมนี้มองว่าลูกค้าตั้งใจที่จะก่อกวนและโกงเงินนั่นเองอย่างไรก็ตาม

พนักงานร้านยืนยันเกี่ยวกับเรื่องของการถอนเงินครบแล้วโดยมีการเปิดกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานให้ลูกค้าได้เห็นซึ่งเมื่อมีหลักฐานทางด้านลูกค้าก็ทำเป็นเหมือนกับว่าตนเองทำเงินร่วงลงที่พื้นหลังจากนั้นก็โวยวายให้พนักงานคืนเงินทั้งหมดและไม่ยอมซื้อสินค้าที่สั่งไปซึ่งพฤติกรรมนี้ไม่ได้ทำเองแค่ร้าน KFC ร้านเดียวเพียงเท่านั้นแต่ภายในวันเดียวกันนั้นยังมีร้านดังร้านอื่นที่โดนลูกค้าที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายกันนั้นมีพฤติกรรมการกระทำที่จะเอาเงินทอนเพิ่มเช่นเดียวกัน

         โดยพฤติกรรมที่เห็นจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับเงินทอนจากทางพนักงานแล้วเธอจะโยนแบงค์ 500 ลงที่พื้นทันทีหลังจากนั้นก็จะมีการโวยวายกับพนักงานว่าเงินที่ถอนให้นั้นเธอได้ไม่ครบซึ่งถ้าหากพนักงานไม่มีการตรวจสอบและให้เงินทอนเธอเพิ่มเธอก็จะได้เงินส่วนต่างตรงนั้นทันทีแต่บังเอิญว่าทั้ง 2 ร้านที่หญิงสาวคนดังกล่าวไปแสดงพฤติกรรมโวยวายนั้นพนักงานยืนยันเกี่ยวกับการถอนเงินที่ถูกต้องและยังมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่เห็นได้ว่าลูกค้ารับเงินไปครบจำนวนและเงินที่หายนั้นเป็นลูกค้าโยนลงพื้นเอง

         สำหรับพฤติกรรมในครั้งนี้ลูกค้าจะพยายามชำระเงินโดยการจ่ายแบงค์ 1000 ในขณะที่ซื้อสินค้าในราคาเพียงแค่ 50-60 บาทเท่านั้นเพื่อต้องการเงินทอน และเมื่อถูกจับได้ลูกค้าก็จะมีการขอยกเลิกรายการที่ซื้อและขอคืนแบงค์ 1,000 กับไปโดยที่สินค้าที่สั่งนั้นลูกค้าก็จะไม่เอาไปด้วย

        ดังนั้นร้านค้าภายในบริเวณพื้นที่ตำบลปากเกร็ดจึงได้มีการประสานงานบอกต่อๆกันเพื่อให้พนักงานทุกร้านคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าหากมีพฤติกรรมแบบนี้ว่าทอนเงินไม่ครบและโวยวายให้พยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่าเพิ่งเชื่อลูกค้าเพราะพฤติกรรมแบบนี้เป็นพฤติกรรมของการโกงจากกลุ่มวิชาชีพนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนัน ufabet