สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังปิดกิจการ ได้มีการแชร์เอกสารแจ้งขอปิดกิจการจากผู้บริหารของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของหัวหิน “เพลินวาน “  ซึ่งเนื้อหาในเอการแจ้งข่าวกับร้านค้าที่เช่าพื้นที่ของเพลินวานสำหรับขายของว่า ทางผู้บริหารเพลินวานขอยกเลิกสัญญาณเช่าโดยจะมีผลสิ้นเดือนมกราคม เพราะทางบริษัทขาดทุน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี  ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยทางผู้บริหารของเพลินวาน

จะไม่เก็บค่าเช่าที่ในเดือนมกราคม และผู้เช่าจะต้องย้ายของออกจากพื้นที่ของเพลินวาน ไม่เกินวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยหาผู้เช่าไม่ย้ายของออกตามที่ระบุในเอกสารถือว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นของทางเพลินวานทันที

         ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วสังคมโซเชียวรวมถึงกำลังเป็นข่าวโด่งดังทางสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในขณะนี้ โดยเอการที่เอามาโพสต์นั้นจ่าหน้าหัวกระดาษระบุชื่อ เพลินวานชัดเจน  แต่หลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าวดังออกมา ทางผู้บริหารของเพลินวาน ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างไร

         จากการติดตามข่าวรวมกับประสบการณ์ที่ได้เคยไปเที่ยวที่ เพลินวาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น  อาจจะเป็นความจริงเพราะจากที่เคยไปเที่ยวมาหลายครั้งแต่ละครั้งที่ไปผู้คนที่ไปเที่ยวที่เพลินวานก็ยิ่งลดน้อยลงทุกที อาจเพราะในเพลินวานไม่ได้กว้างขวางมากนัก เมื่อเข้าไปข้างในก็ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจ พอคนที่เคยไปเที่ยวแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะไปอีก เพราะเมื่อเข้าไปข้างในจุดถ่ายรูปหรือร้านค้าต่างๆก็เหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง คนจะมีเดินเที่ยวเยอะสักหน่อยก็เฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น แต่หากเป็นวันธรรมดา คนแทบไม่มีเดินซื้อของกันเลย ซึ่งปัญหาร้านค้าขาดทุนก็มีส่วนที่ทำให้เพลินวานขาดทุน เพราะหากไม่มีคนมาขายของในเพลินวาน กิจการของเพลินวานก็ไปต่อไม่ได้ เพราะถ้ามีคนมาเดินน้อย ร้านค้าที่ขายของในเพลินวานก็จะน้อยลง และยิ่งร้านค้าน้อยลง คนก็ยิ่งมาเที่ยวเพลินวานน้อยยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ในวันนี้ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของหัวหิน จำเป็นต้องปิดตัวลง

        แต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว ยังคงต้องรอให้ผู้บริหารของเพลินวาน ออกมาชี้แจงอีกครั้ง ว่าเอกสารดังกล่าวที่กำลังมีการแชร์กันอยู่ในขณะนี้เป็นของจริงหรือไม่ เพลินว่ากำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ จนต้องปิดกิจการลงจริงๆใช่หรือไม่ และหากเป็นความจริง นักท่องเที่ยวหลายราย ที่เวลาไปเที่ยวหัวหินแล้วยังอยากไปถ่ายรูปเพื่อเช็คอินที่เพลินวานคงจะพากันเสียใจ และคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งนี้ไปอีกนาน เราก็ได้แต่ช่วยกันภาวนาว่าเพลินวานจะไม่ได้ปิดกิจการจริงๆอย่างที่กำลังเป็นข่าว

 

  สลากกินแบ่งรัฐบาล ถ้าจะหาข้อแตกต่างระหว่าง หวยออนไลน์กับ หวยรัฐบาล  หากมองด้วยตาเปล่าโดยที่ไม่ต้องคิดวิเคราะห์ แยกแยะ เราก็จะทราบทันทีว่าข้อแตกต่างนั้นมีอยู่มากพอในระดับหนึ่งเลยครับ  และเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจถึงข้อแตกต่าง กระผมจะแยกนิยามความหมายของหวยออนไลน์ และสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้

อันดับแรกขอพูดถึง สลากกินแบ่งรัฐบาลก่อนนะครับ  โดยสำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือเรียกอีกชื่อได้ว่า ล็อตเตอรี่ ในส่วนนี้เชื่อว่าเพื่อน ๆหลายคนคงเคยได้อุดหนุนซื้อกับพ่อค้า แม่ค้า ที่ตั้งแผงล็อตเตอรี่ขายกันมาบ้างแล้ว ซึ่งที่ตั้งขายได้นี่ก็เพราะเป็นล็อตเตอรี่ที่ถูกต้องตรงตามกฎหมายครับ และไม่จำเป็นต้องมาแอบซื้อ แอบขายเหมือนกับหวยใต้ดิน เพราะสลากกินแบ่งรัฐบาลจะขึ้นตรงกับรัฐบาลและสำนักงานสลากกินแบ่งครับ และในการที่คุณจะซื้อล็อตเตอรี่พวกนี้ได้นั้นส่วนใหญ่ก็จะต้องรอวันที่หวยใกล้จะออก หรือแทงในวันเดียวกับที่หวยออกเท่านั้น 

 แต่สำหรับหวยออนไลน์  ก็จะเป็นการแทงหวยบนเว็บพนันออนไลน์ ส่วนรูปแบบการแทงก็จะมีลักษณะคล้าย ๆกับการแทงหวยใต้ดินครับ กล่าวคือ ผู้เล่นสามารถเลือกแทงได้หลายรูปแบบ เช่น แทงแบบ 2 ตัวบน 2 ตัวล่าง  แทง 3 ตัวบนล่าง เลขวิ่ง 2ใน 3 3 ใน 5 เป็นต้น อีกทั้งยังไม่มีเลขอั้น เงินแทงขั้นต่ำก็ถูกกว่า และไม่ต้องเดินตามหาซื้อเลขมงคลที่คุณชอบเหมือนกับล็อตเตอรี่ของรัฐบาลครับ

 

แน่นอนว่า หากคุณอยากจะแทงแค่เลขท้าย 2 ถึง 3 ตัว  ถ้าคุณไปเดิมหาซื้อตามแผงบางทีก็เป็นเรื่องยากที่จะหาเจอ  แต่สำหรับหวยออนไลน์นี้จะต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ เพราะถ้าหากคุณอยากแทงเลขอะไรก็ใส่ลงไปในช่องได้เลย   

  แต่ถ้าถามผมว่าผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ในตอนนี้ผมก็ขอตอบก่อนไว้ว่าอาจจะผิดอยู่บ้างครับ ก็เพราะว่า ยังไม่ได้ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด ๆในไทยที่เกี่ยวข้อง แต่หากถูกจับได้ข้อหาก็ไม่น่าถึงขั้นร้ายแรงมากนัก เพราะบางเว็บไซต์พนันที่มีอยู่ในประเทศไทย มีหลายเว็บไซต์ที่ถูกต้องตรงตามกฎหมายอยู่มากมายเลยครับ แต่ทั้งนี้ผมเองก็เชื่อว่าอีกไม่นานหรอกครับหวยออนไลน์จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมืองเราครับ

สุดท้ายนี้เพื่อน ๆคงได้เห็นความต่างของทั้งสองสิ่งนี้กันไปแล้วนะครับ ซึ่งก็อาจจะมีบางอย่างที่แตกต่างกันไปคนละทางอยู่บ้าง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ เลขรางวัลที่ออกมานั่นเองครับ   

 

 

  ห้างดังแถวพระราม 2 มีการเผยแพร่คลิปสาวคนหนึ่งถูกคนร้ายกลุ่มหนึ่งทำทีมาเดินใกล้ๆแล้วล้วงเอากระเป๋าตังไป โดยที่เจ้าของกระเป๋าไม่ทันรู้ตัว เหตุเกิดที่ห้างแถวพระราม 2  โดยภาพในคลิปจะมีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งมีทั้งหมด 5 คน ถ้าดูจากภาพในคลิปจะไม่เห็นถึงความผิดปกติใดๆเลย โดยคลิปนี้ถูกเผยแพร่จากลูกสาวของผู้เสียหายได้ไปขอกล้องวงจรปิดจากทางห้างมา และทางเจ้าหน้าที่ของห้างยังให้ข้อมูลอีกว่าก่อนหน้านี้แก๊งนี้ก็เคยเข้ามาขโมยเงินแบบนี้ แต่เจ้าทุกข์ไม่ยอมแจ้งความจึงเอาผิดไม่ไม่ได้

โดยเมื่อคลิปมีการเผยแพร่ออกไป มีหลายคนออกมาบอกว่าเจอแก๊งนี้มาล้วงกระเป๋าเหมือนกัน

           สังคมเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก มีแต่พวกโจรขโมยเราไม่สามาถมองคนที่การแต่งตัวได้เลย เมื่อก่อนถ้าเห็นคนแต่งตัวโทรมๆ เสื้อผ้าขาดๆ เราจะรู้ได้ทันทีว่าไม่ควรเข้าใกล้ เขาอาจจะเป็นโจร เป็นขโมยได้ แต่ตอนนี้คนที่แต่งตัวดี บางคนถือกระเป๋าแบรนด์เนม ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม แต่กลับทำตัวเป็นโจรเป็นขโมยก็มี อย่างในคลิปที่กำลังเป็นข่าวอยู่นี่ คนที่ก่อเหตุขโมยกระเป๋าทั้ง 5 คนล้วนหน้าตาดี แต่งตัวดูดี จนคนที่เป็นเหยื่อยังไม่คิดว่าจะถูกกลุ่มคนเหล่านี้ขโมยกระเป๋าสตางค์ไปเลย ถึงแม้พวกเราที่ดูข่าวเองก็เถอะ หากไม่มีภาพวินาทีตอนล้วง ตอนถือกระเป๋าของเหยื่อ เราก็ไม่คิดว่าสาวๆทั้งห้าคนนี้จะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ

         ดังนั้นสามารถบอกได้เลยว่าทุกวันนี้ เราไม่สามารถเชื่อใจหรือไว้ใจใครได้ การที่บางครั้งคนที่แต่งตัวดีๆ มีรถขับ มาทำดีกับเราแต่ภายหลังก็สามารถโกงเราได้เหมือนกัน ปัญหาขโมยที่แต่งตัวดีออกมาขโมยเงินนี้ นี่ไม่ได้เป็นข่าวครั้งแรก และไม่ได้มีแค่แก๊งเดียว ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวที่ห้างแถวบางใหญ่ จังหวัด นนทบุรี หรือข่าวที่ครูสาวประเภทสองหลอกหนุ่มให้รักแล้วขโมยเงินขโมยรถของผู้ชายไป ข่าวที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องล้วนแต่เป็นขโมยที่หน้าตาดี บางครั้งการศึกษาก็ดีด้วย แต่ด้วยพิษของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงทุกที ทำให้หลายคนไม่มีทางเลือก ต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ดีเพื่อเอาตัวรอด 

         เหตุการณ์อย่างในคลิปนี้จะยังคงมีอยู่หากผู้เสียหายไม่ยอมแจ้งความ แก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ก็ยังจะได้ใจว่าไม่มีใครมาทำอะไรตนได้ เพราะไม่มีใครกล้าที่จะแจ้งความจับ  ดังนั้น เพื่อให้แก๊งหัวขโมยหมดไปจากสังคมไทย หากเราถูกทำร้าย ถูกฉกทรัพย์สินควรที่จะแจ้งความให้ตำรวจตามจับเพื่อที่สังคมไทยจะได้น่าอยู่ขึ้น

 

สนับสนุนโดย  เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ความหึงเป็นเหตุ ขนพองสยองเกล้า ความหึงเป็นเหตุสามีฆ่าถลกหนังหัวเมียเอาทิ้งส้วม

ความหึงเป็นเหตุ เมื่อได้อ่านข่าวความรุนแรงจากเว็บไซต์ต่างประเทศก็ทำให้รู้สึกสยดสยองของพองเกล้ากันเลยทีเดียวกับข่าวที่สามีคนหนึ่งที่เป็นคนขึ้หึงมาก ซึ่งเขาได้ทำการฆ่าภรรยาของตัวเองอย่างเลือดเย็นและทำการถลกหนังหัวของเมียของเขาออกมาแล้วนำศพของเมียมาแร่หั่นเป็นชิ้นชิ้นแล้วทิ้งชิ้นส่วนลงในชักโครก และเมื่อเขากระทำการเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงพฤติกรรมของตัวเอง เพียงแต่เขาบอกกับตำรวจเพิ่มเติมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเองไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่ามีผีร้ายได้เข้ามาสิงร่างของเขาเพื่อให้เขาทำร้ายเมียของตัวเอง

ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวอายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้นเหตุการณ์อันน่าสะเทือนขวัญในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเหตุการณ์ที่นั้นชาวบ้านในระแวกนั้นต่างก็พากันได้ยินเสียงที่พวกเขาทะเลาะกันหมดทุกคนแต่ไม่มีใครที่คิดจะโทรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเลย สำหรับฆาตกรรายนี้คาดว่าน่าจะมีปัญหาทางจิตเพราะหลังจากที่เขาได้ฆ่าภรรยาของเขาตาย เขาก็ยังโทรไปเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ภรรยาคนเก่าฟังด้วยและจึงค่อยโทรไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และนำมาซึ่งการจับกุมตัวเขาได้ในที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้หนีไปไหน

นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ตรงที่ก่อเหตุนั่นเอง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงร่างกายของตัวฆาตกรเองยังเต็มไปด้วยเลือดของภรรยาของเขาอยู่เลย  และเมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำเขาก็ให้เหตุผลว่าที่เขาทำไปนั้นเป็นเพราะเขาหึงหวงภรรยาของตัวเองกลัวเธอจะนอกใจและตอนนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง

การกระทำของคนเราเวลาที่ทำตอนที่กำลังมีอารมณ์โมโหนั้นมักจะทำอะไรลงไปโดยขาดสติ ไม่มีความยั้งคิดและไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองที่ดีมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบจะทุกคนเป็นกัน แต่ในทางที่ดีแล้วการทำอะไรหรือการที่จะติดสินใจอะไรไปก็แล้วแต่ควรจะคิดและทำตอนที่หายโกรธแล้ว และมีสติมากพอแล้ว เพราะจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำไปภายหลัง เพราะแทบจะทุกคนหากตัดสินใจตอนที่กำลังโกรธก็มักจะอยากย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งที่ทำลงไปด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นคนเราจะต้องมีสติให้มากขึ้นโดยอาจจะต้องหันหน้ามาพึงทางธรรมะกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีสติและใจเย็นลง ไม่ว่าจะคิดและจะทำอะไรหากมีสติเราจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย

เหตุการณ์ความรุนแรง ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับความเป็นจริงในวันนี้

 

เหตุการณ์ความรุนแรง เมื่อวานทางฝ่ายค้านของทีมอนาคตใหม่ได้เข้าสภาเพื่อที่จะได้ทำการอภิปรายความไม่ไว้ว่างใจ จากรัฐบาลประยุทธ โดยมีหัวข้อคือเหตุการณ์ความรุนแรงที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นเหตการณืความรุนแรงที่ยืดเยื้อกันมานานเป็นเวลาถึง 14 ปี โดยที่ปัจจุบันก็ยังคงไม่สงบอยู่ เราที่เป็นคนภายนอกพื้นที่ ก็จะมองว่าความรุนแรงนั้นเกิดจากคนในพื้นที่เอง หรือบางคนที่อาจจะยังเกิดไม่ทันก็จะไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าฉนวนของความขัดแย้งนั้นเริ่มมาจากอะไรกันแน่ ทำไมพื้นที่ตรงนั้นจะต้องกลายเป็นลานประหารที่สังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์

ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วได้มีกลุ่มที่เกิดความไม่พอใจและต้องการที่จะแบ่งแยกดินแดนบริเวณนั้นออกเป็นเอกเทศจากประเทศไทย และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนั้น โดยที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเสียหายโดยไม่รู้ เพียงเพราะแค่ต้องการเรียกร้องการที่จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้ หลายๆคนคงยังจำได้ดีว่าตอนนั้นเราทุกคนได้พับนกเพื่อที่จะส่งกำลังใจไปยังพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนั้นเองก็ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นกับเด็กๆเพราะมีการเผา โรงเรียนกว่า 20 แห่งในปี .. 2547 และเปิดทางไปสู่การปล้นอาวุธในค่ายทหารเพื่อเอาไว้ใช้ก่อเหตุ หลังจากนั้นเหตุการณ์ความรุนแรงของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็รุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเมืองอันตราย และคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากที่จะเดินทางไปที่นั้น

แทบจะกลายเป็นเมืองปิดไปโดยปริยาย เพราะนอกจากจะมีการเผาโรงเรียนแล้ว ยังมีการไประเบิดตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม มีการฆ่าครู และชาวบ้าน จนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อิสระ ที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลและทหารก็ได้ช่วยกันหาทางออกสำหรับเหตการณ์ความรุนแรงที่เกิด แต่จนแล้วจนรอดผ่านมาถึง 14 ปีก็ยังไม่สามารถที่จะหยุดยั้งความรุนแรงนี้ได้ จนกลายเป็นที่ตั้งคำถามกับประชาชนส่วนใหญ่ว่าเหตุใดมันยังยืดเยื้อขึ้นมานานขนาดนี้ จนเมื่อวันที่ 25 กมภาพันธ์ที่ผ่านที่มาได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล

ถึงกรณีความรุนแรงในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากพรรคอนาคตใหม่ ได้นำข้อมูลความจริงมาเปิดเผยว่า จริงๆแล้วเบื้องหลังของควารุนแรงที่ยังคงไม่หยุดนี้ เป็นฝีมือของพวกทหารยศใหญ่ที่ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่นั่นสงบลง เพื่อจะได้งบประมาณจากการเข้าไปดุแลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่มีพูดถึงเรื่องนี้ พีน้องชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ได้ออกมาเปิดผ่านสื่อโซเชียลมากมายว่าตั้งแต่ที่ทหารเริ่มเข้าตั้งฐานทัพที่นี่ความเป็นอยู่ก็ไม่สงบอีกต่อ กลายเป็นละครฉากใหญ่ที่ทางกองทัพได้แสดงขึ้นเพียงเพื่อผลประโยชน์

โดยไม่คำนึงถึงชีวิตผู้บริสุทธิ์กลายเป็นความเน่าเฟะที่ทางกองทัพพยายามที่จะปกปิดเอาไว้ และก็ไม่มีใครที่จะกล้าออกมาพูดความเป็นจริงนี้ว่าเหตุการณ์สงบ งบไม่มากลายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่ทางกองทัพทำกับพี่น้องคนไทยด้วยกันได้อย่างเลือดเย็น ทั้งนี้ถึงแม้ความเป็นจริจะเปิดเผยออกมาแล้วแต่ทางรัฐบาลของนายกตู่ ก็ยังออกมาปฏิเสธถึงข้อกล่าวหานี้ ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็มีส่วนในเหตุการณ์นี้โดยตรง เป็นเรื่องที่น่าละอายใจอย่างยิ่งที่ประเทศของเราได้มีนายกที่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพและความรับผิดชอบถึงเพียงนี้

 

ทำไมเกาหลีถึงถูกแบ่งแยก คนเราส่วนใหญ่มักที่จะรุ้จักประเทศเกาหลีว่า เป็นประเทศที่เจริญทางด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ทั้ง ซีรีย์ เคป๊อป เครื่องสำอาง อาหาร เป็นประเทศที่แทบจะไม่มีการส่งออกทางด้าน อุตสาหกรรมการเกษตรเลย เพราะว่าพื้นที่ของประเทศมีอยู่อย่างจำกัด เรามักจะจำภาพว่าเกาหลีนั้นเต็มไปด้วยความเจริญก ก้าวหน้า แต่นั่นเป็นเพียงแค่ประเทศเกาหลรใต้เพียงเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากเกาหลีเหนือที่เราส่วนใหญ่ก็มักจะรู้จักว่า เป็นประเทศ โลกที่ 3 เพราะว่าเป็นประเทศที่ไม่ติดต่อทำการซื้อขายกับประเทศใดๆ เป็นประเทศที่เรารู้จักกันน้อยมากๆ

หรือว่าถ้าจะรู้จัก ก็จะรู้จักในนามประเทศที่มีการผลิตอาวุธเพื่อสงครามและมีผู้นำที่เผด็จการ 

ซึ่งจริงๆแล้วในอดีตประเทศหลีเหนือ และเกาหลีใต้ นั้นเป็นประเทศเดียวกัน แต่ถูกแบ่งแยกเพราะเกิดปัญหาทางด้านความคิดในเรื่องการเมือง และในที่สุดก็บานปลายจนกลายเป็นสงครามเกิดขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วจุดเริ่มต้นมันเกิดจาก หลังสงครามโลกครั้ง 2 ฝ่ายประเทศที่ชนะสงครามอย่างอเมริกา ได้ยึดพื้นที่ที่เป็นเขตอาณานิคมอย่างเกาหลีมาอยู่ในการปกครองของตน ซึ่งเป็นการแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศสหรัฐและประเทศรัสเซีย ซึ่งแบ่งตามคาบสมุทรเส้นขนานท่ี 38 โดยกองกำลังของสหรัฐได้ยึดครองเกาหลีส่นทางใต้ และรัสเซียได้ยึดครองเกาหลีทางเหนือ

จุดที่เกิดจากการแตกหักจริงๆนั้น เกิดจากสงครามที่ทาง สหรัฐ และ รัสเซีย

กำลังทำสงครามกันอย่างเงียบ หรือว่าสงครามเย็นนั้นเอง ซึ่งเกิดจากการมีแนวคิดในเรื่องของการปกครองที่แตกต่างกัน จนในที่สุดก็เกิดความล้มเหลวทางด้านความคิดเห็นทางการเมืองภายในประเทศเกาหลี ซึ่งทางเกาหลีเหนือที่ถูกปกครองด้วยรัสเซียนั้นมีแนวคิดเป็นคอมมิวนิสต์ และทางเกาหลีใต้ที่มีความคิดเป็นโลกเสรีนิยมโดยสถาปนาเปารปกครองแบบประชาธิปไตยซึ่งแกนนำเป็นสหรัฐ โดยที่ทั้งสองเริ่มมีการปะทะกะนเกิดขึ้นเพราะความเห็นทางการเมืองและเป็นเรื่องของการเป็นประเทศที่เป็นตัวแทนของคราม ระหว่างฝ่านคอมมิสและฝ่ายของประชาธิปไตย

ซึ่งก็คือ สหรัฐ และรัสเซียนั่นเอง ซึ่งทั้งสองประเทศนี้จะไม่ได้ทำสงครามกันอย่างตรงๆ แต่ว่าจะเป็นการเข้าแทรกแซงและช่วยเหลือฝ่ายที่ตนเองสนับสนุนอยู่ และจนในที่สุดท่ีสุดสงครามเกาหลีก็เกิดขึ้น ซึ่งประเทศไทยของเราเองก็ได้ส่งทหารเขาไปร่วมรบกับทางเกาหลีใต้ จนสามารถได้รับชัยชนะไปในที่สุด และประเทศเกาหลีก็ได้แยกประเทศออจากกัน เป็นประเทศเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ซึ่งในปัจจุบันส่งผลให้คนไทยเวลาเดินทางไปประเทศเกาหลีจึงไม่เป็นจำเป็นต้องขอวีซ่า เพราะว่าสืบเนื่องมาจากความดีความชอบที่ทางไทยของเรานั้นได้ไปร่วมรบจนฝ่ายของเกาหลีใต้ชนะ และที่สำคัญก็ได้กลายเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันจนมาถึงในปัจจุบันนี้ 

ถึงแม้ว่าการการแบ่งแยกประเทศเกาหลีนั้นจะได้ไม่เกิดจากความคิดเห็นของคนเกาหลี เพราะมติส่วนใหญ่เกิดจากข้อตกลงจากการประชุมไคโร จากการตัดสินใจในครั้งนั้นส่งให้ปัจจุบัน เกาหลีมีเขตแบ่งแยกประเทศอย่างชัดเจน ระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ซึ่งเขตแดนตรงนี้เป็นเขตปลอดทหาร แต่ว่าก็ยังไม่การคุมเข้มอยู่ เพราะว่ายังมีประชาชนชาวเกาหลีเหนือได้ทำการหลบหนีออกจากประเทศตนเอง เนื่องแบกรับความเผด็จการของประเทศตนเองไม่ได้ ดังนั้นจึงมีการคุมเข้มและโทษที่หนักมากสำหรับผู้ที่คิดอยากจะหลบหนี

 

ขอบคุณเรื่องราวเหล่านี้โดย  คาสิโนออนไลน์ฝากไม่มีขั้นต่ำ

ข่าวรุ่นน้องกินขี้เลื่อย มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเป็นจำนวนมากหลังจากที่มีคนนำคลิปวิดีโอเด็กนักเรียนถูกรุ่นพี่ที่โรงเรียนบังคับให้กินขี้เลื่อยซึ่งเด็กรุ่นน้องจำใจต้องกินไปร้องไห้ไปโดนรุ่นพี่บอกให้กินก็ให้กินน้ำตามน้ำยังบอกด้วยว่าปลวกกินกินได้คนก็ต้องกินได้ก็เพราะสามารถย่อยสิ่งของได้ทุกอย่างให้คิดซะว่าทีเลยนี่คือขนมให้กินให้หมดอย่างไรก็ดีเมื่อคืนนี้ได้เผยแพร่ออกไปมีการแชร์ต่อๆกันเป็นจำนวนมากและต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงรุ่นพี่ที่ใช้อำนาจในการข่มเหงรุ่นน้อง

ซึ่งจากชุดที่เด็กนักเรียนใส่จะเห็นว่าเป็นชุดของเด็กนักเรียนชั้นประถมเราจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้เรามักจะเห็นการกดขี่ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องสำหรับเด็กมหาลัยเท่านั้นแต่ตอนนี้การใช้กดขี่ข่มเหงเริ่มลามปรามมาถึงในรั้วโรงเรียนที่เป็นเด็กโรงเรียนชั้นประถมซึ่งอาจมองได้ว่าสิ่งที่เด็กประถมฉันโตทำใจต้องร้องเพราะเค้าดูข่าวดูคลิปวิดีโอที่เคยมีการเผยแพร่กันว่ารุ่นพี่สามารถกันแกล้งหรือบังคับรุ่นน้องได้อย่างไรบ้างแล้วจึงเกิดการลอกเลียนแบบขึ้นซึ่งผู้ปกครองและทางโรงเรียนควรจะต้องให้คำชี้แนะเด็กว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

การกระทำของเด็กรุ่นพี่คนนี้เป็นการบ่มเพาะนิสัยที่ไม่ดีซึ่งรุ่นน้องอาจจะทำผิดต่อๆกันมาเพราะว่าส่วนใหญ่หากโดนรุ่นพี่บังคับแล้วตัวเองก็อยากเจอบังคับรุ่นน้องของตัวเองบ้างซึ่งมันเป็นปกติของคนทั่วไปอยู่แล้วซึ่งสิ่งที่ลูกพี่บังคับให้ดูน้องกินนั้นคือขี้เลื่อยซึ่งถือว่าเป็นเศษไม้กินเข้าไปแล้วจะทำให้กระเพาะมีความระคายเคืองอาจมีสิ่งสกปรกเจือปนอยู่เมื่อกินเข้าไปแล้วอาจจะทำให้ซับไม่สบายแล้วถ้าหากเด็กรุ่นน้องกินเข้าไปแล้วเกิดมีอันตรายขึ้นมารุ่นพี่ก็ไม่สามารถรับผิดชอบชีวิรุ่นน้องได้

ดังนั้นพ่อแม่ครัวจานควรจะมีการอบรมสั่งสอนนักเรียนทุกคนในโรงเรียนให้มีความรักความสามัคคีกันแทนที่จะมากดขี่คมเฮงกันเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร สิ่งที่ผู้ปกครองและเด็กเล็กและโรงเรียนควรจะทำคือการจัดอบรมให้เด็กมีกิจกรรมทำร่วมกันและช่วยเหลือซึ่งกันและเป็นการปลูกฝังให้เด็กรักกันแทนที่จะคมเฮงกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องเพราะถ้าเด็กมีความรักกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องแล้วเค้าจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไม่เกิดการทะเลาะบอกแหวนกันแล้วไม่เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจขึ้นได้