เจอว่าหากใครติดตามข่าวสารจะต้องได้รับทราบกันมาบ้างแล้วว่าปัจจุบันนี้มีแก๊งมิจฉาชีพมักจะแอบอ้างว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์เป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ น็อตหลุด ติดต่อมายังลูกค้าและมีการคิดจะหลอกเอาเงินซึ่งนอกจากจะเป็น มิจฉาชีพที่หลอกว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วปัจจุบันนี้ก็มีมิจฉาชีพที่หลอกว่าเป็นผู้ให้บริการการขนส่งสินค้าและมักจะอ้างว่ามีสินค้าที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนที่เป็นสินค้าผิดกฎหมายและจะถูกดำเนินคดีทำให้ลูกค้านั้นจะต้องมีการแจ้งข้อมูลหรือมีการโอนเงินบางส่วนเข้าไปให้กับทางคอลเซ็นเตอร์ซึ่งในขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังเข้ามาเป็นมิจฉาชีพที่หลอกโอนเงินประชาชนมากที่สุดก็คืออ้างว่ามาจากขนส่ง DHL

           อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 30 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอได้มีการโพสต์คลิปเสียงที่เธอได้มีการคุยกับมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าเป็นหน่วยงานของ DHL ติดต่อมาหาเธอโดยระบุว่าเธอนั้นมีพัสดุที่ส่งมาจากประเทศสิงคโปร์แต่พัสดุดังกล่าวนั้นข้างในมีการใส่สิ่งของที่ผิดกฎหมายซึ่งทาง DHL จะต้องมีการติดต่อกับลูกค้า

      อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้มีการพูดคุยด้วยการพูดแบบยียวนกับพนักงานที่ติดต่อเข้ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีการสอบถามแก๊งมิจฉาชีพว่า DHL คืออะไร ซึ่งหากแก๊งมิจฉาชีพตอบเธอไม่ได้เธอก็จะไม่ทำธุรกรรมใดๆทั้งสิ้นซึ่งส่งผลทำให้มิจฉาชีพนั้นเกิดความไม่พอใจจึงได้ตะโกนด่าเจ้าของคลิปหลังจากนั้นก็ตัดสายไปทันที

      แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีสายจากมิจฉาชีพเข้ามาใหม่อีกครั้งโดยอ้างตัวว่าเป็นหัวหน้างานของพนักงานคนที่แล้ว    สล็อต ufabet เว็บตรง     เพื่อเข้ามาชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยยืนยันว่ามาจากขนส่งDHL จริงๆแล้วลูกค้ากำลังมีปัญหาเรื่องของสินค้าที่ผิดกฎหมายอย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้เธอเป็นคนที่ช้อปปิ้งผ่านทางระบบออนไลน์ตัวยงอยู่แล้วและเธอทราบขั้นตอนเกี่ยวกับเรื่องของการติดต่อระหว่างขนส่งกับลูกค้าว่าโดยปกติแล้วทางขนส่งจะมีการใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาลูกค้าโดยตรงและจะไม่มีการใช้ระบบอัตโนมัติส่งต่อมาหาลูกค้าก่อนอย่างเด็ดขาด

        นอกจากนี้เมื่อสอบถามถึงตัวย่อขอชื่อบริษัทขนส่งทางพนักงานก็ไม่สามารถตอบได้นั่นหมายถึงว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือมิจฉาชีพและเธอก็ไม่เคยส่งสินค้าหรือสั่งสินค้าจากต่างประเทศดังนั้นเธอจึงมั่นใจว่าเธอกำลังถูกแก๊งมิจฉาชีพมาหลอกลวงจึงได้มีการตั้งใจที่จะพูดยวนๆไปแบบนั้นจนในที่สุดแม้แต่หัวหน้างานของแก๊งมิจฉาชีพก็ยอมแพ้กับเธอตะโกนด่าเธอด้วยคำหยาบคายหลังจากนั้นก็วางหูไปทันที 

            มีผู้ใช้บริการ App tiktok รายหนึ่งซึ่งเธอเป็นหญิงสาวชาวสิงคโปร์เธอได้มีการโพสต์คริสต์เล่าประสบการณ์การซื้อสินค้าแบรนด์เนมในต่างประเทศ

    สาวแก้เผ็ด พนักงานร้านแบรนด์เนม โดยคลิปของเธอถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.  2565 ซึ่งเธอมีการระบุในแคปชั่น tiktok ของเธอว่า  เป็นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ที่ไม่ค่อยประทับใจ แต่อย่าให้ใครมาดูถูกแม่ของคุณ 

        สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวชาวสิงคโปร์รายนี้ระบุว่าเธอและแม่ของเธอเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอิตาลี  โดยเธอ และแม่ของเธอนั้นไปพักผ่อนที่กรุงโรม ซึ่งแม่ของเธอได้เดินทางไปดูกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่ง โดยวันที่เดินทางไปนั้นแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาหลังจากที่เข้าไปในร้านแบรนด์เนมดังกล่าวแล้วปรากฏว่าพนักงานมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีใส่แม่ของเธอทำกิริยาที่แย่ๆใส่แม่ของเธอนอกจากนี้ยังไม่สนใจที่จะบริการแม่ของเธอและหันไปสนใจบริการลูกค้าคนอื่นแทน   แม่ของเธอจึงได้กลับมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง 

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าหลังจากที่เธอได้ฟังที่แม่เธอเล่าแล้วเธอรู้สึกโกรธพนักงานขายคนนั้นมากและเธอต้องการเอาคืนพนักงานขายคนนั้นวันรุ่งขึ้นเธอจึงได้ชวนแม่ของเธอไปช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ร้านเดิมแต่แม่ของเธอนั้นได้มีการห้ามปรามเธอแต่เธอตัดสินใจที่จะแก้แค้นพนักงานคนดังกล่าวแทนแม่ของเธอเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครมาดูถูกแม่ของเธอ

       สำหรับวิธีการแก้แค้นของหญิงสาวรายนี้เธอเดินทางไปกับแม่ของเธอที่ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมร้านเดิมหลังจากนั้นก็เข้าไปในร้านแล้วทำทีเป็นเลือกซื้อกระเป๋านอกจากนี้เธอยังเรื่อยๆพูดคุยกับพนักงานขายอีกคนนึงซึ่งเมื่อเธอถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของกระเป๋าพนักงานขายคนดังกล่าวก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี  ดังนั้นเธอจึงซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังกล่าวมาหลายใบโดยเธอซื้อทุกใบที่พนักงานได้มีการแนะนำเธอซึ่งมีการคิดเงินแล้วมีมูลค่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว

      อย่างไรก็ตามหญิงสาวชาวสิงคโปร์คนนี้ได้มีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่าในขณะที่เธอกำลังยืนจ่ายเงินค่ากระเป๋าแบรนด์เนมอยู่นั้นพนักงานขายที่เคยปฏิบัติกับแม่ของเธอไม่ดีก็ได้มาพูดแสดงความยินดีกับเพื่อนพนักงานที่ขายกระเป๋าให้กับเธอด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างประชดประชัน 

สำหรับเรื่องนี้ หญิงสาวชาวสิงคโปร์ยืนยันว่าเธอต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าแม่ของเธอนั้นต้องมีความสุขและใครก็ไม่สามารถมาดูถูกได้ของเธอได้ นอกจากนี้เธอยังพูดถึงการให้บริการของพนักงาน ว่ามีแต่ละร้านค้านั้นก็ต้องมีพนักงานที่บริการดีและไม่ดีปะปนกันไป 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

       รปภ. หึงโหดฆ่าตัดคอเมีย เมื่อวันที่ 31 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ แมร์ไทม์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังของประเทศกัมพูชา   ซึ่งได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมรายหนึ่ง  โดยเป็นการฆาตกรรม หญิงสาวชาวกัมพูชาที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ  โดยเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้นั้นเป็นการฆาตกรรมที่สร้างความสยดสยองให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก 

           สำหรับคดีฆาตกรรม รายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2565  

      เนื่องจากว่า ได้มีพลเมืองดีได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพของ หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในห้องเช่าข้างๆกันถูกฆ่าปาดคอจนเสียชีวิต โดยเพื่อนบ้านเล่าว่าตอนที่พบศพนั้น พบแต่ร่างซึ่งมีแต่เลือดเต็มไปหมด นอนอยู่ที่พื้นในห้องเช่า แต่ไม่มีศรีษะ  อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านสงสัยว่าจะเป็นสามีของหญิงสาวรายนี้ที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเองเพราะในที่เกิดเหตุนั้นไม่พบสามีของผู้เสียชีวิตจึงคาดว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว

           อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านที่พบศพเป็นคนแรกให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามีภรรยาคู่นี้เพิ่งย้ายมาอยู่ห้องเช่าได้เพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น โดยทั้งคู่เดินทางมาเช่าห้องอยู่ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565    โดยฝ่ายหญิงนั้นมีอาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาดในขณะที่ฝ่ายชายนั้นมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย   

         อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่าสามีภรรยาคู่นี้มักจะทะเลาะกันเป็นประจำทุกวันโดยเพื่อนบ้านมักจะได้ยินเสียงทะเลาะทุกค่ำคืนแต่รุ่งเช้าทั้งคู่ก็จะกลับมาคืนดีกันโดยส่วนใหญ่สาเหตุของการทะเลาะกันนั้นมาจากฝ่ายชายหึงหวง   นอกจากนี้เพื่อนบ้านยังบอกอีกด้วยว่าสามีมักจะทำร้ายร่างกายภรรยาของตนเองอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะหลังจากทั้งคู่ทะเลาะกันก็มักจะคืนดีกัน 

         อย่างไรก็ตามล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถจับกุมฆาตกรได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา  ซึ่งฆาตกรรายดังกล่าวก็คือสามีของผู้เสียชีวิตนั่นเอง   โดยเขายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเองด้วยการใช้มีดปาดคอหลังจากนั้นก็นำศีรษะของภรรยาใส่ถุงกระสอบแล้วนำขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปทิ้งที่ถังขยะที่ใกล้กับหอพักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปที่อำเภอบาตี  จังหวัดตาแก้ว 

         จากการให้ข้อมูลของ  ฆาตกรรายนี้ระบุว่าสาเหตุที่ฆ่าภรรยานั้นเพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเหตุมาจากความหึงหวงเพราะคิดว่าภรรยานอกใจไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นที่รู้จักกันผ่านทางโซเชียลถึงแม้ว่าทางภรรยาของเขาจะปฏิเสธแล้วก็ตาม

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เว็บพนัน ufabet

           ลูกทำร้ายพ่อตนเองตายคาบ้าน เมื่อวันที่ 8 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ที่จังหวัดบุรีรัมย์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านตะโก   สำหรับผู้ที่พบศพผู้เสียชีวิตคนแรกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่นักพัฒนาชุมชน อบต. บ้านยางชื่อว่านางรติมา  

โดยนางรติมาได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองนั้นเป็นคนที่ประสานงานติดต่อกับรูปของผู้เสียชีวิตมาโดยตลอดเนื่องจากว่าจะต้องมีการพาลูกของผู้เสียชีวิตซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุในครั้งนี้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับยารักษาอาการป่วยจิตเวช

          นางรติมเล่าว่า ผู้ป่วยชื่อว่านาย ตาล ได้มีการรักษาอาการป่วยนี้มานานหลายปีแล้วส่วนใหญ่แล้วจะไปรับยาอยู่ที่โรงพยาบาลเสริมสุขภาพตำบล   อย่างไรก็ตามทางด้านนางรติมายืนยันว่าโดยปกติแล้วเมื่อได้ยามาแล้ว นายตาลมักจะไม่ค่อยกินยา  เมื่อมีการพูดคุยกันในการยืนยันว่าต้องการที่จะฉีดยามากกว่ากินยาจึงทำให้เชื่อว่านายตาลนั้นรับยามาแล้วไม่ค่อยกินยาจึงทำให้เกิดอาการกำเริบ 

         ในวันที่พบศพนั้นนางรติมาได้มีการนัดแนะกับนายตาลว่าจะต้องมีการไปรับยาที่โรงพยาบาลเสริมสุขภาพตำบล  ซึ่งนัดกันว่าจะไปเจอกันที่โรงพยาบาลโดยนายตาลก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลตามปกติแต่เนื่องจากว่าต้องรอคิวนานทำให้นายตาล เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายจึงได้บอกกับนางรติมาว่าจะกลับไปรอที่บ้านให้นางรติมาเป็นคนรับยาแทนแล้วนำไปให้ที่บ้าน 

          อย่างไรก็ตามเมื่อนางรติมารับยาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้มีการเดินทางมาที่บ้านของนายตาลพร้อมกับเจ้าหน้าที่โดยมีการขับรถกู้ชีพของทางอบตมาเมื่อมาถึงก็ได้มีการตะโกนเรียกหานายตาลแต่ไม่มีคนตอบรับมือเข้าไปดูภายในบ้านก็พบพ่อของนายตานอนเสียชีวิตอยู่จึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุซึ่งทางด้านนางรติมาและเจ้าหน้าที่ของอบตมีการสันนิษฐานว่าผู้ที่ทำร้ายพ่อของนายตาลจนเสียชีวิตนั้นน่าจะเป็นตัวนายตาลเอง ซึ่งน่าจะเกิดจากอาการป่วยกำเริบ

        อย่างไรก็ตามทางด้านผู้ใหญ่บ้าน  ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เสียชีวิตอยู่หลายครั้งซึ่งผู้เสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่าผู้เสียชีวิตนั้นกลัวว่าจะถูกลูกชายของตนเองทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเพราะลูกชายมักจะมีอาการทางประสาทอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านเองก็ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วผู้เสียชีวิตจะตายด้วยน้ำมือของลูกชายจริงๆ

         สำหรับประวัติของผู้เสียชีวิตนั้นมีรูปอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คนแต่ละคนนั้นไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดมีเพียงนายตาลเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเดียวกับผู้เป็นพ่อแต่อยู่บ้านคนละหลังซึ่งบ้านสร้างอยู่ติดกัน  อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านเห็นในตาลสะพายกระเป๋าและปั่นจักรยานออกนอกหมู่บ้านซึ่งคาดว่าจะกลัวความผิดจึงได้มีการหลบหนีออกนอกพื้นที่

 

สนับสนุนโดย    สล็อตยูฟ่าเว็บตรง

     เฒ่าวัย 72  ถูกหลานคลั่ง   เมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม    เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองจังหวัดอุดรธานีได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่งโดยสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นเป็นการถูกฆ่าตาย   สำหรับบ้านที่มีคนตายนั้นอยู่ในหมู่บ้านดอนอีไข  

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุจึงได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลและทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่าบ้านที่เกิดเหตุฆ่ากันตายนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นโดยชั้นบนนั้นจะเป็นไม้และชั้นล่างจะเป็นปูน

        สำหรับจุดที่พบศพคนเสียชีวิตนั้นเป็นบริเวณด้านหลังของบ้านพักอาศัยซึ่งมีการสร้างเอาไว้เป็นโรงเก็บของโดยลักษณะของการสร้างนั้นจะทำเป็นเพิงมุงหลังคาเอาไว้ภายในเพิ่งเก็บของนั้นพบศพชายอายุประมาณ 72 ปีทราบชื่อต่อมาว่าชื่อว่านายมงคล   ปีทราบชื่อต่อมาว่าชื่อว่านายมงคล  นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณข้างโอ่งมังกรในสภาพนอนตะแคงมีเลือดท่วมตามร่างกายเต็มไปหมด 

นอกจากนี้บริเวณข้างศพนั้นยังพบมีดยาวประมาณ 1 ฟุตซึ่งเป็นมีดทำครัวและยังมีต้นไม้พรุ่งนี้คาบแรกติดอยู่ด้วยต้นไม้ดังกล่าวนั้นมีลักษณะของการหักมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร    เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการล้อมรอบสถานที่เกิดเหตุเอาไว้และได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเอาไว้ 

          จากการตรวจสอบสภาพศพเรื่องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีรอยการถูกมีดบาดทั้งบริเวณแขนและฝ่ามือรวมถึงข้อมือที่สำคัญจุดที่ทำให้มีเลือดออกเยอะมากที่สุดก็คือบริเวณลำคอเนื่องจากว่าถูกมีดบาดคอเกือบขาดเลยทีเดียวและยังมีแผลบริเวณช่องท้องอีกด้วยจากการสันนิษฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีการต่อสู้ขัดขืนกันเกิดขึ้น 

         จากการให้ปากคำของญาติของผู้เสียชีวิตหลายรายยืนยันว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิตเองเนื่องจากว่าหลานชายมักจะมีพฤติกรรมชอบทำร้ายคนสูงวัยและมักจะมาทำร้ายผู้เสียชีวิตอยู่เป็นประจำซึ่งเมื่อช่วงตอนเช้านั้นก็มีการเข้ามาบีบคอของผู้เสียชีวิตถึง 2 ครั้งด้วยกันนอกจากนี้ยังมาทำร้ายคนอื่นเนื่องจากว่าหลานชายนั้นมีปัญหาด้านสุขภาพจิตเนื่องจากว่าเสพยาบ้าอยู่บ่อยครั้งจึงมักจะมีอาการหลอนและมักจะอาละวาดทำลายญาติพี่น้องโดยญาติคนอื่นก็โดนทำร้ายเช่นเดียวกันจึงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปยุ่งด้วย

        อย่างไรก็ตามในขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เชื่อว่าจะเป็นหลานชายเพราะมีคนเดียวที่มักจะมาทำร้ายผู้เสียชีวิตอยู่เป็นประจำสำหรับผู้เสียชีวิตนั้นแต่เดิมเคยบวชเป็นพระอยู่แต่เพิ่งสึกออกมาเมื่อวันที่ 10 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 นี้เองและหลังจากสึกออกมานั้นก็มาอาศัยอยู่เพิงหลังบ้านซึ่งเป็นจุดที่มีคนมาพบศพซึ่งคาดว่าหลานชายน่าจะเกิดอาการคุ้มคลั่งแล้วลงมือมาทำร้ายทุบตีผู้เสียชีวิตเกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นหลังจากฆ่าผู้เป็นปู่เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้หลบหนีไป 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

         หนุ่มตายบนที่นอน  ที่จังหวัดบุรีรัมย์มีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในเขตพื้นที่ตำบลมะเฟือง  อำเภอพุทไธสง   เมื่อวันที่ 6 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565

โดยชายที่เสียชีวิตนั้นอายุประมาณ 24 ปี   ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนเสียชีวิตก็ไปยังบ้านที่เกิดเหตุทันทีซึ่งพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนในสภาพร่างกายไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่ที่มือของผู้เสียชีวิตนั้นได้มีการถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้และโทรศัพท์มือถือก็มีการเสียบสายชาร์จและมีการเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้นอกจากนี้ด้วยนิ้วมือตรงที่ถือโทรศัพท์มือถือ

นั้นก็มีรอยไหม้แดงเป็นจ้ำๆซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสันนิษฐานว่าสาเหตุ  sa gaming เครดิตฟรี50   ของการเสียชีวิตของชายหนุ่มรายนี้นะน่าจะเกิดมาจากการถูกไฟช็อตจากเหตุการณ์ที่มีการชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งเอาไว้แล้วก็มีการถือโทรศัพท์มือถือค้าง

           สำหรับผู้ที่พบศพคนแรกนั้นเป็นพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิตเองได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมากและส่วนใหญ่ก็มักจะเล่นเกมซึ่งทุกครั้งที่มีเวลาว่างผู้เสียชีวิตก็มักจะมานั่งเล่นเกมอยู่เป็นประจำช่วงเวลาตอนกลางคืนก่อนนอนก็จะมักจะเล่นเกมจนดึกจนดื่น

          อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นในช่วงเวลาตอนกลางคืนหลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้เสียชีวิตก็เข้าห้องนอนซึ่งพ่อเลียงเชื่อว่าน่าจะเข้าไปในห้องเพื่อทำการเล่นเกมเพราะเนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตมักจะมีการใช้ชีวิตแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วและช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. พ่อเลี้ยงได้ยินเสียงของผู้เสียชีวิตร้องครวญครางประมาณ 2 ครั้งซึ่งทางด้านพ่อเลี้ยงนั้นไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าลูกเลี้ยงอาจจะร้องเพราะมีอารมณ์ร่วมกับการเล่นเกมเนื่องจากมักจะได้ยินเสียงเวลาผู้เสียชีวิตเล่นเกมมักจะร้องโวยวายเสียงดังอยู่เป็นประจำนั่นเอง

                อย่างไรก็ตามวันรุ่งขึ้นพ่อเลี้ยงสังเกตว่าผู้เสียชีวิตไม่ยอมออกมาจากห้องซึ่งเป็นช่วงเวลาสายมากแล้วโดยปกติแล้วลูกเลี้ยงนั้นมักจะตื่นแต่เช้าทางด้านพ่อเลี้ยงจึงได้ไปเคาะประตูห้องนอนแต่ปรากฏว่าไม่มีการตอบรับทางด้านพ่อเลี้ยงจึงเปิดประตูเข้าไปดูก็พบว่าลูกเลี้ยงนอนเสียชีวิตอยู่บนห้องนอนโดยพบว่าตัวแข็งแล้วซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว

            หลังจากนั้นจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาชันสูตรศพซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบศพและมีการส่งตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการให้ญาตินำผู้เสียชีวิตไปดำเนินทางพิธีศาสนาต่อไปเนื่องจากว่าเป็นการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุและญาติและทุกคนในครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจสงสัยการเสียชีวิตในครั้งนี้นั่นเอง