บุกเข้าบ้านเด็กวัย 5 ขวบ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากเจ้าของบ้านหลังหนึ่งว่าพี่ชายโรคจิตคนหนึ่งบุกเข้าไปในบ้านและหวังข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวของเขาไว้เพียงแค่ 4 ขวบซึ่งตอนนี้ได้จับตัวคนร้ายเอาไว้ได้แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงไปยังบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวแล้วหาข้อมูลหลักฐานเพื่อนำมาประกอบการจับกุมคนร้าย

ซึ่งทางพ่อของเด็กหญิงวัย 4 ขวบได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในวันเกิดเหตุดังกล่าวเป็นช่วงเวลาประมาณ 17:30 นซึ่งตัวของพ่อเองนั้นออกไปทำงานนอกบ้านลูกสาววัย 4 ขวบกินอยู่กับแม่ซึ่งในขณะนั้นแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน โดยช่วงเวลาที่ชายโรคจิตมาอยู่ที่หน้าบ้านนั้นเด็กหญิงวัย 4 ขวบเข้าใจว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์มาส่งของเธอจึงตะโกนบอกแม่ของเธอว่าเธอจะไปรับของที่ไปรษณีย์เองและเมื่อเธอเดินออกไปนายมงคลซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงวัย 4 ขวบก็ได้เดินเข้ามาภายในบริเวณบ้านพร้อมกับอุ้มเด็กหญิงเข้ามาในบ้านซึ่งในพื้นที่บ้านหลัง

ดังกล่าวนั้นจะมีบ้านหลังหนึ่งซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่และคนงานไม่ได้อยู่ในบ้านนายมงคลจึงได้อุ้มเด็กหญิงเข้าไปในบ้านหวังจะข่มขืนแต่หน้าจากหน้าต่างบ้านยังไม่สามารถปิดได้เพราะยังสร้างไม่เสร็จในมงคลจึงได้อุ้มเด็กนอนลงกับพื้นกำลังถอดกางเกงของตนเองและของเด็กก็ผลปรากฏว่าแม่ของเด็กเห็นว่าเด็กหายไปนานจึงได้ตะโกนเรียกและออกตามหาจึงมาพบว่าลูกสาวกำลังจะถูก

นายมงคลข่มขืน เธอจะได้ร้องโวยวายเมื่อ นายมงคลเห็นดังนั้นจึงได้วิ่งหนีออกไปโดยสวนทางกับพ่อของเด็กที่พึ่งเลิกงานกำลังกลับเข้ามาในบ้านแม่ของเด็กจึงได้ตะโกนบอกให้พ่อของเด็กจับตัวคนร้ายเอาไว้ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ความตื่นตกใจให้กับเด็กเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเด็กจะยังไม่ถูกข่มขืนแต่ก็เกิดความหวาดกลัวที่จะเห็นคนแปลกหน้าตอนนี้เด็กมีอาการตื่นเมื่อมีคนแปลกหน้ามาอยู่ใกล้ๆ

ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่รู้สึกสงสารลูกของตนเองเป็นอย่างมากและเบื้องต้นจากการที่เจ้าหน้าที่มีการสอบสวนนายมงคลที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ความว่า ตนเองเข้าไปในบ้านเพียงเพราะต้องการจะขอรับซื้อของเก่าเท่านั้นแต่พ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายไม่เชื่อคำให้การของนายมงคลเนื่องจากว่าไม่มีรถที่จะเป็นรถแสดงถึงการรับซื้อของเก่า

แต่อย่างใดรวมถึงมีข้อมูลจากทางเพื่อนบ้านได้บอกว่าเคยเห็นนายมงคลขับรถวนเวียนเข้ามาในหมู่บ้านหลายวันแล้วเส้นคาดการณ์กันว่า นายมงคลอาจจะขี่รถเลาะเข้ามาภายในหมู่บ้านเพื่อต้องการมามองหาเหยื่อประจวบเหมาะกับลูกสาวของตนเองเปิดประตูออกมาเจอนายมงคลพอดีจึงทำให้ลูกสาวของตนเองทุ่มไป

เพื่อจะนำตัวไปข่มขืนแต่โชคยังดีที่แม่ของเด็กมาเห็นเสียก่อนทำให้ลูกยังไม่ถูกข่มขืน เบื้องต้นจากประวัติที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบมาพบว่านายมงคลเคยมีคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กมาแล้วและคาดว่าครั้งนี้ก็จะมาทำเหมือนเดิมอีก 

 

งูเหลือมยาว 7 เมตร หญิงวัยกลางคน ถูกฉกหวังกินเป็นอาหารสุดท้ายงูใหญ่แพ้หญิงวัย 50 ปี

           เมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายนปี 2563  ที่เว็บไซต์ข่าวของประเทศอินโดนีเซียได้มีการรายงาน ข่าวว่า นาง นียา หญิงชาวอินโดนีเซียอยู่ 50 ปีได้ถูกหวยธรรมดาร้ายเดือยงูตัวดังกล่าวเป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์มีความยาวถึง 7 เมตรด้วยกันซึ่งมันพุ่งเข้าทำลายและล่างนางนียา

โดยเธอได้ทำการต่อสู้ขัดขืนยอมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือซึ่งในขณะนั้นเองลูกทั้งสองคนของเธอได้เดินนำหน้าเธอไม่ไกลจากเธอมากนักทำให้ได้ยินเสียงนางนียาร้องขอความช่วยเหลือ 

  และเมื่อเขาทั้งสองคนหันมาเห็นนางนียาก็พบว่านางมียากำลังถูกงูเหลือมตัวใหญ่ยักษ์พันรอบตัวอยู่    ดังนั้นรูปคนหนึ่งจึงได้วิ่งเข้ามาช่วยเหลือนางนียาพยายามแกะเอางูออกส่วนลูกอีกคนนึงก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือกับคนในหมู่บ้านให้มาช่วยเหลือนางนียาที่กำลังถูกงูเหลือมรัด

อยู่ในขณะนี้ ซึ่งในที่สุดแล้วเธอก็สามารถเอาชีวิตรอดจากเจ้างูยักษ์ตัวนั้นได้รวมถึงแทนที่เจ้าอยากจะได้กินมนุษย์มันกลับโดนมนุษย์ฆ่าตายซะเอง 

        เหตุการณ์ที่สร้างความตระหนกตกใจในครั้งนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านบุหงี จังหวัดสุลาเวซี ของประเทศอินโดนีเซียซึ่งหญิงสาวที่เขาเล่าให้ฟังว่าในช่วงเช้ามืดจะเดินทางไปทำงานในสวนกับลูกๆทั้งสองคนของเธอหลังจากที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอและลูกๆก็พากันกลับบ้านโดยลูกๆทั้งสองคนเดินนำหน้าและเธอเดินตามหลังแต่ระหว่างทางที่กำลังจะกลับถึงบ้านนั้น

เธอก็ถูกต้องอยู่นั้นทำร้ายซึ่งลูกของเธอก็ให้การตรงกันว่าระหว่างที่เดินทางกลับบ้านนั้นอยู่ๆก็ได้ยินเสียงแม่ของเขาตระกูลร้องโวยวายพวกเขาจึงได้ทำการวิ่งกลับมาดูก็พบว่าแม่ของเขากำลังถูกงูตัวมารัดตัวอยู่พวกเขาจึงได้ช่วยกันแซะเอางูออกจากตัวแม่ของเขาแต่ก็ปรากฏว่าสู้แรงไม่ได้ลูกชายคนนึงจะได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านไปช่วยกันมาเอาออกจากแม่

ซึ่งระหว่างที่รอความช่วยเหลือจากชาวบ้านนั้นนานมียาเองก็พยายามต่อสู้กับเจ้างูร้ายเต็มที่จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะมันได้ปัจจุบันนางนียาถูกส่งไปรักษาตัวที่ได้รับการบาดเจ็บจากการถูกงูกัดที่โรงพยาบาลซึ่งพบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว 

        ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีงูข้างและมูลส่วนใหญ่ก็เป็นงูขนาดใหญ่และบางครั้งก็เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงซึ่งเรามักจะเห็นตามข่าวบ่อยๆเกี่ยวกับงูที่มักจะออกมาทำร้ายคนสำหรับประเทศไทยเองในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่มีงูชุกชุมเช่นเดียวกันซึ่งตามหมู่บ้านก็มักจะมีงูเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านรวมถึงในห้องน้ำหรือในชักโครกก็มักจะมีงูไม่ว่าจะเป็นงูมีพิษหรือพวกงูเหลือมก็มักจะแอบเข้าไปอาศัย

และแอบทำร้ายคนที่เป็นเจ้าของบ้านอยู่บ่อยครั้งดังนั้นควรระมัดระวังตนเองให้ดีอย่างการเข้าห้องน้ำก็ควรจะมีการปิดฝาชักโครกให้เรียบร้อยและก่อนที่จะเข้าใช้บริการก็ควรจะมีการกดชักโครกก่อน 1 ครั้งเพื่อให้งูมันรู้ตัวแล้วให้มันหนีไปก่อนจะได้ไม่ได้งูทำร้าย 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่า คือ

    อาถรรพ์ต้นหว้า ที่จังหวัดชลบุรีตรงข้ามกับหมู่บ้านเจริญสินธานี  เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านแถวชุมชนหมู่บ้านเจริญสินธานีว่ามีคนมาผูกคอตายตรงสนามตะกร้อซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านโดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเดินทางไปถึงต่างก็พากันตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าต้นไม้ต้นดังกล่าวเป็นต้นว่าซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมา 20 กว่าปีแล้วแต่ที่ทำให้ทำกู้ภัยและตำรวจตกใจนั่นก็คือมีเหตุการณ์ผูกคอตายที่ต้นว่าต้นนี้มาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง

และที่สำคัญบริเวณที่ผู้เสียชีวิตมักจะผูกคอตายนั้นจะเป็นกิ่งของต้นว่านับจากด้านล่างขึ้นด้านบนเป็นสิ่งที่ 2 ซึ่งทั้ง 3 ศพที่ผูกคอนั้นผูกคอตายสิ่งเดียวกันทั้ง 3 ศพจึงทำให้ทั้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงชาวบ้านที่มาดูศพต่างพากันตกใจเกรงว่าต้นว่าต้นนี้จะมีอาถรรพ์เนื่องจากว่ามีคนมาฆ่าตัวตายที่ต้นว่าต้นนี้ปีละคน

สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิงสาวชาวกัมพูชาอายุประมาณ 49 ปีซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสำรวจสอบแล้วไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใดจึงคาดว่าไม่น่าจะใช่เหตุการณ์ฆาตกรรมแต่น่าจะเป็นการเสียชีวิตเพราะตั้งใจมาผูกคอตายด้วยตนเองเนื่องจากใช้เชือกไนลอนสีขาวผูกกับกิ่งไม้และจากสภาพศพพบว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

โดยคนที่พบศพคนแรกนั้นเป็นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นเดินผ่านมาตรงสนามตะกร้อและได้มีการมองไปทางต้นหว้า ทำให้มองเห็นศพห้อยอยู่จึงได้ประสานงานแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งชาวบ้านบอกว่าก่อนหน้านี้ก็มีคนผูกคอตายเช่นเดียวกันเป็นผู้ชายซึ่งทั้ง 3 ศพที่ผูกคอตายนั้นเป็นชาวกัมพูชาแทบทั้งสิ้นหลายคนจึงเชื่อกันว่าน่าจะเป็นอาถรรพ์ของต้นว่าที่นี่มักจะมาเอาชีวิตชาวกัมพูชาทุกคน

จึงลงความเห็นกันว่าเมื่อทางเจ้าหน้าที่นำศพออกไปแล้วอาจจะมีการประสานงานกับทางเจ้าของที่ทำบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแถวบริเวณต้นว่าต้นนี้รวมถึงอาจจะต้องมีการขอความร่วมมือเจ้าของที่ขอตัดต้นว่าทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาแขวนคอตายที่นี่อีก

     สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นมีสามีและลูกซึ่งมีการเช่าห้องพักอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านเจริญสินธานีซึ่งสามีและลูกให้การตรงกันว่าช่วงประมาณเวลาตี 4 ของเมื่อวันที่ 9 เมษายนปีพศ. 2563 ได้มีคนมาเคาะที่หน้าห้องและมีการชวนผู้ตายออกไปนอกห้องหลังจากนั้นทางผู้ตายก็เดินมาบอกสามีกับลูกว่าจะออกไปซื้อของซึ่งหลังจากออกไปนานสามีและลูกจึงได้ออกตามหาเนื่องจากแปลกใจว่าออกไปตั้งแต่ 4:00

แล้วยังไม่กลับเข้ามาสักทีแต่ตามหาอยู่นานก็ไม่พบจนมีคนเดินมาบอกว่ามีคนพบศพภรรยาผูกคอตายอยู่ใต้ต้นว่าทั้งนี้ทั้งสามีและลูกยืนยันว่าทั้ง 3 คนไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไรรวมถึงไม่ได้มีปัญหาหรือเรื่องเครียดแต่อย่างใดโดยชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่เคยเห็นคนในครอบครัวนี้มีการทะเลาะกันดังนั้นจึงเชื่อว่าอาจจะเกิดจากอาถรรพ์ของต้นไม้มากกว่า 

 

สนับสนุนโดย  ทดลองเล่นบาคาร่า

           สัตวแพทย์โพสต์ถูกตำรวจจับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในขณะนี้ประเทศไทยมีการประกาศ  พรก. ฉุกเฉินเกี่ยวกับเรื่องของการเดินทางว่าห้ามประชาชนทุกจังหวัดเดินทางออกนอกบ้านหลังเวลา 10:00 นเป็นต้นไปและจะสามารถออกจากบ้านได้อีกครั้งหนึ่งตั้งแต่เวลา 04:00 นซึ่งผู้ที่จะสามารถออกช่วงเวลาที่มีการควบคุมเวลานี้ได้จะต้องเป็นแพทย์และพยาบาลที่มีหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยหรือต้องทำงานเกี่ยวข้องกับโควิด-19 เท่านั้น

แต่เมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายนปีพศ 2563 ที่ผ่านมาได้มีนายแพทย์หนุ่มคนหนึ่งชื่อว่าหมอบอยได้ออกมาโพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัวของตนเองโดยมีการโพสต์เรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับวิชาชีพที่ตนเองทำอยู่เนื่องจากหมอบอยมีอาชีพเป็นสัตวแพทย์ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเกี่ยวกับสัตว์ที่จังหวัดสมุทรสาครเลยบ่ได้เล่าเรื่องราวผ่าน Facebook ของตนเองว่าช่วงนี้คืนของวันที่ 7 เมษายนช่วงเวลาประมาณ 21:00

ได้มีชาวบ้านนำแมวตัวหนึ่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยบอกว่าแมวดังกล่าวเป็นแมวจรจัดชาวบ้านเห็นว่าถูกหมากัดและได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งแมวมีอาการบาดเจ็บหลายที่รวมถึงบาดเจ็บที่ตาโดยตาของแมวถลนออกมานอกบ้านเราทำให้นายแพทย์หนุ่มจำเป็นต้องรับตัวแมวเอาไว้รักษาอย่างเร่งด่วน

เพราะไม่ฉะนั้นแมวก็จะเสียชีวิตได้ซึ่งได้มีการใช้ระยะเวลาในการรักษาแมวจนถึงเกือบเวลา 22:00 นหลังจากนั้นหมอบอยก็มีการเดินทางกลับที่พักแต่ระหว่างทางได้มีการแวะซื้อกับข้าวเพื่อจะกลับไปกินยังที่พักด้วยโดยหมอบอยได้กล่าวว่าระหว่างที่ขับรถใกล้จะถึงบ้านพักนั้นได้เจอด่านของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจ เคอร์ฟิวแล้วเมื่อคุณหมอได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุผลที่กลับบ้านล่าช้าว่าอยู่รักษาสัตว์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้เหตุผลในการจับกุมในครั้งนี้ว่าอาชีพของสัตวแพทย์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรักษาไวรัสโคโรน่า

ซึ่งไม่อยู่ในกลุ่มแพทย์ทำให้หมอบอยไม่ได้รับการยกเว้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการควบคุมตัวหมอบอยไปขังคุกเป็นเวลา 1 คืนจะลงเช้าแฟนของน้องชายจึงได้เดินทางมาประกันตัวและพิธีการจ่ายเงินค่าประกันตัวไปทั้งหมด 4,000 บาททำให้หมอบอยรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับวิชาชีพของตนเองว่าการเป็นสัตวแพทย์ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่อนุโลมให้และยังบอกว่าไม่ได้เป็นบุคคลทางการแพทย์โดยหมอบอยได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าหากย้อนเวลากลับไปได้แล้ว

ยังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อยู่หมอบอยก็จะทำเหมือนเดิมคือต้องอยู่รักษาสัตว์ให้เรียบร้อยก่อนถึงจะเดินทางกลับบ้านพักจะไม่มีทางปล่อยให้สัตว์ต้องเสียชีวิตหรือทิ้งไว้อย่างนั้นอย่างเด็ดขาดซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของหมอบอยได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความเห็นใจหมอบอยกันเป็นจำนวนมาก

      โดยเรื่องนี้หมอบอยก็ได้ฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าควรจะมีการแยกแยะและคัดกรองรวมถึงฟังเหตุผลของผู้ที่เดินทางกลับล่าช้าในช่วงเคอร์ฟิวว่าเขามีเหตุผลสำคัญอะไรหรือไม่ 

 

 

ขอขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนโดย   gclub online ผ่านเว็บ

หลอกนายจ้าง เดือนร้อนกันทั้งบริษัทเหตุเพราะชายคนหนึ่งอยากได้วันหยุดพักผ่อนนานๆ จึงหลอกนายจ้างว่าติดโควิด -19

        หลอกนายจ้าง ชายหนุ่มคนหนึ่งฉลาดแกมโกง จัดทำเอกสารปลอมขึ้นมาเพื่อหวังตบตาที่บริษัทว่าตัวเองน้ันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียงเพราะอยากให้ตัวเองได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้านยาวยาว ทำเอาวุ่นวายกันทั้งบริษัทแถมลูกยังต้องอายเพื่อนที่โรงเรียนถึงการกระทำของเขาในครั้งนี้ สุดท้ายได้พักผ่อนยาวยาวในคุกฐานปลอมแปลงเอกสารและให้ข้อมูลเท็จกับรัฐ

       เหตุการในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่า  มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า  เจฟฟรีย์ ทราวิส ลอง   อายุราวๆ 30 ปีซึ่งเขาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในแผนก Call Center และเนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์ที่รัฐอเมริกาเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามีอย่างแพร่หลายและรุนแรง  ตัวของนายเจฟฟรีย์ ทราวิส ลอง ก็อยากจะได้หยุดเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างจึงได้วางแผนหลอกลวงบริษัทด้วยการปลอมแปลงเอกสารจากทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ทางนอร์ธ  แคโรไลนาอยู่ในเอกสารระบุว่าก็มีการไปทำการตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโคโรน่า

และพบว่าเขาเป็นผู้ติดเชื้อคนหนึ่งซึ่งทางบริษัทของเขาได้รับเอกสารซึ่งอนุญาตให้เขาหยุดพักผ่อนเพื่อไปรักษาตัวที่สำคัญเหนืออื่นใดทางบริษัทต้องให้พนักงานคนอื่นที่ทำงานแผนกเดียวกันกับเขาหยุดด้วยถึง 5 วันเพื่อที่จะได้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่ทำงานและความแตกเมื่อทางบริษัทของนายเจฟฟรีย์ ทราวิส ลอง ไม่มีการส่งเอกสารของเขาแจ้งไปยังทางสำนักงาน สปราร์ตันเบอร์ดเพื่อแจ้งให้หน่วยงานรัฐทราบว่าในบริษัทของเขามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

เพื่อทำการเก็บไว้เป็นสถิติของประเทศแต่เมื่อทางหน่วยงานรัฐบาลมีการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวพบว่าเอกสารนั้นเป็นของปลอมเพราะไม่มีตราประทับของทางโรงพยาบาลจึงทำให้เขาถูกขับไล่ออกจากการเป็นพนักงานบริษัทและรัฐบาลต้องจับกุมของเขาในการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการที่สำคัญในขณะที่เขาได้หยุดจากการที่บริษัทให้เขาหยุดไปรักษาตัวในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น

ก็ได้เดินทางไปหาลูกของเขาที่โรงเรียนซึ่งทางโรงเรียนเองก็ทราบว่าตัวเขาเองเจอไวรัสกรุณาดังนั้นเมื่อทางโรงเรียนเห็นว่าเขาเดินทางไปที่โรงเรียนจึงได้ประกาศปิดเรียนและการฉีดยาฆ่าเชื้อซึ่งเมื่อผลออกมาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะเขาโกหกและอันที่จริงเขาไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าส่งผลกระทบให้ลูกของเขาเอง

ได้รับความอับอายจากเพื่อนที่โรงเรียนและทางบริษัทที่เขาทำงานรวมถึงโรงเรียนก็ได้รับความเสียหายจากการที่ต้องหยุดปิดให้ทางโรงเรียนและนำบริษัทฉีดยาฆ่าเชื้อซึ่งตรงนี้เองเขาอาจจะต้องโดนทั้งโรงเรียนและบริษัทฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย

 

 

สนับสนุนโดย   เซ็กซี่ บาคาร่า คือ