สิ่งที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา  การตั้งชื่อเด็ก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องราวที่เราเองก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้  สิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  มันเกี่ยวข้องกับสิ่งของที่ดูไม่น่าจะขายได้ในโลกออนไลน์  แต่ก็มีการนำมาโพสต์ขาย 

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆที่จะมีคนมาโพสต์ขายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการตั้งชื่อลูกให้กับตนเอง  ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมันจะมีความเป็นไปเป็นมายังไงจะมีคนเข้ามาประมูลหรือว่ามาซื้อหรือเปล่าก็ติดตามกัน 

การตั้งชื่อลูกถือได้ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ยากมากๆเลยทีเดียวสำหรับใครหลายคน  แต่ว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถของพ่อแม่  ที่จะตั้งชื่อให้กับลูกของตัวเอง  ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องราวที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก  การตั้งชื่อลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก  แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการตั้งชื่อลูก นี้เองสามารถนำมาโพสต์ขายในโลกออนไลน์ได้

  ซึ่งเรื่องราวนั้นจะเป็นยังไง  ก็ติดตามกันเมื่อปี 2009 ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอก็ประกาศขายสิทธิ์ในการตั้งชื่อลูก  ของเธอลงใน eBay ซึ่งแน่นอนว่าใน 4 ครั้งแรกที่เธอประกาศนั้นทีมงาน eBay ได้ยกเลิกมันได้  เพราะความเพียรพยายามของเธอประกาศในครั้งที่ 5 ทีมงานอาจจะมองไม่เห็น  และมันจะจบลงที่ราคาประมูล 6800 เหรียญสหรัฐ หรือราวกว่า 2 แสนบาท  อย่างไร

    ก็ตามก็เป็นไปตามที่คาด  คงไม่มีใครอยากเสียเงินไปฟรี 2 แสนบาท  แลกกับการที่ต้องตั้งชื่อลูกให้คนอื่นด้วยนะ  สุดท้ายเดี๋ยวนี้ก็ตามดีลนี้ก็ไม่สำเร็จ  เพราะผู้ชนะไม่ได้ควักกระเป๋าจ่าย ซึ่งเขาต้องการเล่นสนุกกับการประมูลก็เท่านั้นเอง การขายของผ่านโซเชียลหรือว่าผ่านโลกออนไลน์นั้น 

เป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนก็สามารถที่จะทำได้ และแน่นอนก็มีมาคน  ที่จะมาโพสต์ขายสิ่งแปลกๆไม่ว่าจะเป็นการขายซากวาฬสเปิร์มหรือแม้แต่การขายวิญญาณของมนุษย์  นอกจากนี้คุณรู้หรือเปล่า  ก็ยังมีการมาโพสต์ขายถุงพลาสติกที่ใช้แล้วด้วยเหตุผลมากมาย  แน่นอนว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะขายได้ 

แต่ก็ยังมีคนมาโพสต์ขายหรือ  ก็ไม่แน่ว่ามันก็อาจจะขายได้  แต่ถ้าคุณอยากจะรู้ว่ามันขายได้หรือเปล่า  แต่ไม่สามารถที่จะขายได้ต้องศึกษาค้นหาข้อมูลดู  ก็คงอาจจะมีอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ต และก็เชื่อได้เลยว่าถ้าหากคุณได้ลองค้นหาดูแล้วอาจจะพบอะไรที่แปลกใหม่กว่า  ที่เราที่กล่าวไปข้างต้นก็อาจจะเป็นไปได้ซึ่งๆนี้ก็รอให้คุณไปทำความรู้จักเกี่ยวกับมันอยู่

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

        กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่มีการพูดถึงกันในสังคมเป็นอย่างมากหลังจากที่มีเหตุการณ์คุณหมอสาวรายหนึ่งถูกรถชนหน้าโรงพยาบาลทั้งๆ ร้านค้าตั้งโต๊ะกาแฟทับทางม้าลาย ที่เดินทางข้ามทางม้าลายกลายเป็นเรื่องที่ให้มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากกว่าในสังคมไทยนั้นต่อให้เดินทางข้ามถนนตรงทางม้าลายก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย

พราะทุกวันนี้ถึงแม้เลือกเดินข้ามถนนตรงทางม้าลายแต่รถที่วิ่งไปบนท้องถนนนั้นก็แทบจะไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลายเลยซึ่งอันที่จริงแล้วการข้ามถนนทางม้าลายในประเทศไทยนั้นถือว่าอันตรายเป็นอย่างมากทางที่ดีที่สุดควรทำสะพานลอยให้ประชาชนใช้ในการข้ามถนนจะเป็นการปลอดภัยมากที่สุด

      ภายหลังจากที่มีคนเสียชีวิตตรงบริเวณถนนซึ่งมีทางม้าลายให้คาบนั้นก็ทำให้หลายคนนั้นเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของทางม้าลายทำให้ในช่วง 2 3 วันที่ผ่านมาหลังจากเป็นข่าวคนเสียชีวิตก็ทำให้สังเกตได้ว่าเวลาข้ามถนนบนทางม้าลายลดจะชะลอให้คนข้ามก่อนที่จะวิ่งไป  อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้ออกมาแฉว่าทุกวันนี้พฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องของทางม้าลายนั้นยังคงมีให้เห็นกันเป็นประจำซึ่งที่จังหวัดอุบลราชธานี ตรงบริเวณด้านหน้าของโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์

        ได้มีการสร้างทางม้าลายเอาไว้โดยในโซเชียลมีการถ่ายภาพทางม้าลายในขณะที่ด้านข้างมีร้านขายกาแฟมาตั้งขายอยู่และมีการตั้งโต๊ะไว้ให้ลูกค้านั่งกินกาแฟที่ร้าน

ซึ่งโต๊ะกาแฟนั้นก็ มีการนำมาตั้งโต๊ะตรงบริเวณทางม้าลายนอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟก็ยังมีสถานีตำรวจอยู่และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เห็นอยู่ทุกวันว่าตรงบริเวณทางม้าลายนั้นมีร้านกาแฟมาตั้งขวางทางอยู่แต่ก็ไม่มีใครที่จะเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ยังคงปล่อยให้มีการขวางการจราจรตรงนี้อยู่ทำให้คนในโลกออนไลน์นั้นต่างก็แชร์กันเป็นจำนวนมากโดยมีการระบุว่าภาพเดียวนั้นสามารถบอกได้ทุกอย่างว่าสังคมไทยนั้นมีพฤติกรรมเกี่ยวกับทางม้าลายอย่างไรได้บ้าง 

       อย่างไรก็ตามคนที่ออกมาแฉภาพทางม้าลายที่มีโต๊ะขายกาแฟอยู่นั้นมีการระบุว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้มานานแล้วแล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาจัดการดูแล

ซึ่งเรื่องนี้อยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงในสังคมหลังจากที่มีกรณีอุบัติเหตุเกิดขึ้นตรงบริเวณทางม้าลายเชื่อว่าถ้าหากทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรก็จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้และคดีของคุณหมอกระต่ายที่เสียชีวิตจากการถูกรถชนตรงเดินทางม้าลายก็จะกลายมาเป็นอุทาหรณ์ให้สังคมนั้นได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสังคมให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง

      โดนกลั่นแกล้งแล้วโดนไล่ออก  เมื่อวันที่ 29 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 Facebook ของทนายชื่อดังอย่างทนายสิทธาได้มีการโพสต์เรื่องราวของลูกความคนหนึ่งที่มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับคดีความโดยลูกความที่ทนายสิทธาได้มีการพูดถึงก็คือเจ้าของร้านทำผมชื่อดังยางออฟโรซีซึ่งเธอเป็นเจ้าของร้านทำผมโคซี่ชาลอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้

       สำหรับรายละเอียดที่ทนายสิทธาได้นำมาโพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัวนั้นมีการระบุว่าคุณอ๊อฟโคซี่ได้มีการติดต่อขอคำปรึกษาเนื่องจากว่าถูกฟ้องร้องจากโรงเรียนเนอสเซอรี่เพราะคุณอ๊อฟโคซี่ได้ไปทำการให้รีวิวโรงเรียนเป็นศูนย์คะแนนเนื่องจากว่ามีปัญหาไม่พอใจกับการให้บริการของเคอรี่ดังกล่าว

       สำหรับรายละเอียดการขัดแย้งกันระหว่างคุณอ๊อฟโคซี่กับทางโรงเรียนนั้นเกิดขึ้นเมื่อคุณเอา Kose ได้มีการส่งรูปไปเรียนเนอสเซอรี่เนื่องจากว่าลูกของคุณอ๊อฟนั้นยังมีอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเข้าโรงเรียนจึงพาไปเรียนเนอสเซอรี่ซึ่งคิดว่าเป็นพี่ที่ดีที่สุดเนื่องจากว่ามีแนวการเรียนการสอนโดยใช้จิตวิทยากับเด็กเนื่องจากว่ามีจิตแพทย์หญิงซึ่งเป็นคนอิตาลีคอยดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งสถาบันนี้ตั้งอยู่แถวย่านทวีวัฒนา 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณเอาโคซี่ส่งรูปไปเรียนได้ไม่นานปรากฏว่าทราบว่าตอนที่อยู่ที่ เนอสเซอรี่นะลูกของตนเองมักจะถูกเพื่อนแกล้งอยู่เป็นประจำคุณอ๊อฟโคซี่จึงได้มีการติดต่อแจ้งเจ้าของเนอสเซอรี่ซึ่งทางเจ้าของเองก็ได้มีการแนะนำว่าให้อ๊อฟ  โคซี่ นั้นเอาลูกเลี้ยงไว้ที่บ้านก่อนหลัง

         จากนั้นไม่นานทางอ๊อฟ  โคซี่ ก็มีการโอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้กับคุณอ๊อฟโคซี่นั่นหมายถึงว่าต่อไปนี้ลูกของคุณอ๊อฟโคซี่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปที่นั่นอีกแล้วเหมือนกับว่าทางเนอสเซอรี่นั้นไล่ลูกเธอออกทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเธอจึงได้เข้าไปที่เพจของนักแสดงดังกล่าวแล้วไปทำการกดรีวิวโดยให้คะแนนเป็นแบบ 0 คะแนน

        เมื่อทางด้านเนอสเซอรี่เห็นก็เกิดความไม่พอใจโดยมีการนำเอกสารต่างๆไปทำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลโดยแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งจะส่งผลทำให้ถ้าออกมามีความผิดจริงคุณออฟโต้จะต้องติดคุก 2 ปีและยังต้องเสียค่าปรับอีกด้วยที่สำคัญทางเนอสเซอรี่ยังมีการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5 000 บาท

     ดังนั้นคุณ อ๊อฟ  โคซี่ จึงได้มีการติดต่อไปที่ทนายสิทธาเพื่อทำการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับคดีดังกล่าวและเมื่อทนายสิทธาได้มีการตรวจสำนวนฟ้องและหลักฐานที่เขาส่งให้ดูก็พบว่าทางเนอสเซอรี่นั้นมีการฟ้องเท็จซึ่งเรื่องนี้ทางทนายสิทธาแนะนำให้คุณ อ๊อฟ  โคซี่  มีการฟ้องกับเนอสเซอรี่เพราะไม่ต้องการที่จะให้คนที่รู้กฎหมายกฎหมายมากลั่นแกล้งคนดี 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ดีที่สุด

          กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ช่วยตามหาตัวนายสุชาติ พบแล้วชายที่หายตัวไป 10 วัน ซึ่งหายออกจากบ้านพักในจังหวัดกระบี่ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ 2564    โดยครั้งสุดท้ายที่ครอบครัวของนายสุชาติพบก็คือนายสุชาติได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านและบอกกับภรรยาและลูกว่าจะไปทวงเงินกับเพื่อนชื่อบังฟัด ซึ่งติดหนี้อยู่ 300 ,000 บาท 

          อย่างไรก็ตามครอบครัวของนายสุชาติแจ้งว่าหลังจากที่นายสุชาติขับรถออกไปในวันดังกล่าวนั้นก็ไม่สามารถติดต่อนายสุชาติได้อีกเลยจึงได้มีการแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันตามหาซึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามสืบสวนสอบสวนและออกตามหาสุดความสามารถโดยผ่านไปนานถึง 10 วันแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถพบอาจารย์สุชาติหรือพบร่องรอยของนายสุชาติได้

          ล่าสุดลูกสาวของนายสุชาติได้นำข้อความซึ่งมีผู้หวังดีส่งข้อความมาแจ้งให้ทราบว่านายสุชาตินั้นเสียชีวิตแล้วและถูกฝังเอาไว้ในสวนปาล์มแห่งหนึ่งทั้งคนทั้งรถซึ่งลูกสาวนายสุชาติเล่นนำข้อความดังกล่าวไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูพร้อมกับข้อมูลหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนนายสุชาติโดยเพื่อนคนดังกล่าวนั้นระบุว่าก่อนนายสุชาติจะหายไปได้ขับรถมาที่ร้านของเขาเพื่อที่จะชวนเขาไปทวงหนี้เป็นเพื่อนแต่บังเอิญว่าเขาไม่อยู่บ้านนายสุชาติจึงไปคนเดียว

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่บ้านของบังฟัตซึ่งเป็นลูกหนี้ที่นายสุชาติจะมาทวงเงินนั่นเอง  เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงบ้านของบังฟัตปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ภายในบริเวณบ้านเลย สอบถาม ญาติพี่น้องของบังฟัตและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงระบุว่าบังฟัดออกนอกพื้นที่ไป

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤษภาคมพศ 2564 แล้วไม่มีใครรู้ว่าเดินทางไปไหนซึ่งการเดินทางออกนอกพื้นที่นั้นไปพร้อมกับชายอีก 3 คนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อว่าชายสามคนนั้นน่าจะร่วมมือกันก่อเหตุฆ่านายสุชาติ

        อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินสำรวจรอบบ้านของนายบังฟัตและเดินไปทางด้านหลังบ้านจึงพบสวนปาล์มขนาดใหญ่และเมื่อเข้าไปทำการตรวจสอบสวนปาล์มดูก็พบว่ามีที่ดินบางส่วนที่มีร่องรอยเหมือนเอาดินมากบใหม่ๆและมีรอยไฟไหม้จึงได้ใช้รถแบคโฮมาขุดเมื่อขุดลงไปลึกประมาณ 1 เมตรก็พบกับแผ่นเหล็กจึงได้ขุดลงไปลึกมากกว่านั้นและพบว่ามีรถของนายสุชาติถูกกลบฝังดินเอาไว้

           ซึ่งลูกสาวของนายสุชาติยืนยันว่าเป็นรถของพ่อเธอจริงหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ระดมกำลังกันออกตามหานายสุชาติซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วอาจจะฝังอยู่ใกล้ๆกับรถเก๋งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ระยะเวลาตามหาไม่นานห่างออกจากหลุมฝังรถเก๋งไปประมาณ 2 กิโลเมตรก็พบหลุมฝังศพของนายสุชาติซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำร่างนายสุชาติขึ้นมาให้ทางด้านตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย