มีการเปิดเผยออกมาจากข่าวช่อง 3 ว่ามีคุณยายวัย 73 ปีรายหนึ่งได้มีการติดต่อมาที่ช่อง 3 เพื่อต้องการให้ช่วยประกาศตามหาแม่ของเด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนึง ให้ติดต่อมาหาคุณยายเพื่อให้มารับลูกที่ฝากคุณยายเลี้ยงไว้เมื่อ 7 ปีก่อนกลับคืนไปเนื่องจากว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของคุณยายกำลังย่ำแย่ไม่มีเงินและไม่มีงานไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กหญิงวัย 7 ขวบได้อีกต่อไป

        จากการที่ทางช่อง 3 ได้มีการพูดคุยกับคุณยายวัย 73 ปีรายนี้ระบุว่าเมื่อช่วง 7 ปีก่อนที่ผ่านมานั้นได้มีคนงานชาวกัมพูชาคลอดลูกออกมาแล้ว

นำเด็กมาฝากเลี้ยง โดยมีการจ้างคุณยายเลี้ยง  ซึ่งในขณะนั้นเด็กอายุเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นโดยในตอนนั้นคุณนายยังมีอาชีพเปิดร้านขายของชำอยู่จึงสามารถรับเลี้ยงเด็กไปด้วยได้ 

          อย่างไรก็ตามเมื่อเลี้ยงได้ 3 เดือนปรากฏว่าแม่ของเด็กไม่เคยมาเยี่ยมเด็กไม่เคยมารับเด็กไปเลี้ยงดูเองรวมถึงไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับคุณยายด้วยดังนั้นคุณยายจึงบอกให้แม่เด็กนำเด็กกลับคืนไปเพราะไม่สามารถเลี้ยงเด็กได้อีกต่อไปซึ่งในครั้งนั้นแม่ของเด็กได้รับเด็กไปแล้ว

นำไปขายต่อให้กับคนอื่นในราคา 10,000 บาทเมื่อคุณยายรู้เรื่องก็เกิดความสงสารเด็กจึงได้มีการติดต่อไปยังหัวหน้างานของพ่อแม่ของเด็กรายนี้เพื่อให้นำตัวเด็กกลับคืนมาแล้วรับปากว่าจะเลี้ยงดูให้ 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณยายได้เด็กกลับคืนมาพ่อแม่ของเด็กก็ไม่เคยหันมาสนใจดูแลเด็กอีกเลยและปล่อยให้เด็กอยู่กับคุณยายตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาซึ่งในขณะนี้คุณยายไม่สามารถขายของได้อีกต่อไปเนื่องจากว่าอายุมากแล้วทุกวันนี้อาศัยเงินจากเงินบำนาญเพียงเท่านั้น 

จึงอยากจะให้ทางหรือช่วยประกาศตามหาพ่อแม่ของเด็กเพื่อให้พ่อแม่ของเด็กนั้นมารับเด็กกลับไปเลี้ยงดูเพราะถึงแม้ว่าจะรักเหมือนลูกมากแค่ไหนแต่ในตอนนี้อายุมากแล้วไม่มีปัญญาส่งเด็กให้เรียนหนังสือสูงๆได้ 

        อย่างไรก็ตามนักข่าวได้มีการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านของคุณยายรายนี้ซึ่งเพื่อนบ้านทุกคนให้ข้อมูลตรงกันว่าคุณยายรับเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วและดูแลอย่างดีเลี้ยงดูเหมือนลูกมาโดยตลอดแต่เนื่องจากว่าครอบครัวของคุณยายนั้นอยู่กันสองคนตายายและไม่มีรายได้จึงไม่สามารถที่จะเลี้ยงเด็กได้อีกต่อไปทางประธานชุมชนจึงอยากวอนขอให้คนใจดีช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงินให้กับครอบครัวของคุณยายเพื่อจะได้นำเงินมาเลี้ยงดูเด็กต่อไป

หรือถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะบริจาคได้ก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวเด็กเพื่อไปเลี้ยงดูอุปการะต่อไป   เนื่องจากคนในชุมชนเชื่อว่าพ่อแม่ของเด็กนั้นน่าจะกลับประเทศกัมพูชาไปแล้วและตัดสินใจทิ้งเด็กคนนี้ไว้ในประเทศไทยแล้วดังนั้นการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือจะเป็นการดีที่สุด 

       

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    ufabet

      เก๋งสติหลุดขับรถไล่ชนคน  เมื่อวันที่ 14 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอซึ่งเป็นคลิปภาพเหตุการณ์ที่มีคนกลุ่มใหญ่ทะเลาะวิวาทกัน

โดยภายในกลุ่มนั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายภาพที่มีการเผยแพร่กันในโลกออนไลน์นั้นมีทั้งหมด 2 คลิปซึ่งคาดว่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกันโดยในคลิปแรกที่มีการเปิดเผยออกมานั้นเป็นคลิปที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดบริเวณถนนตรงจุดที่เกิดเหตุทันทีซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคน 10 กว่าคนกำลังชกต่อยทะเลาะวิวาทกันอยู่บนถนนเส้นหนึ่ง

ซึ่งมีการขว้างเก้าอี้ใส่กันอยู่แถวบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าวไม่ได้มีการระบุว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นเกิดเหตุที่ร้านชื่อว่าอะไรและอยู่บนถนนเส้นไหนหรือจังหวัดไหน

        นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปนึงที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ซึ่งคลิปนี้เป็นการถ่ายจากโทรศัพท์มือถือซึ่งคาดว่าน่าจะมีการถ่ายจากคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยในคลิปจะเห็นได้ว่ามีรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งขับเวียนไปมาพยายามขับพุ่งเข้าหาคน

โดยมีการพุ่งเข้าชนคนหนึ่งคนหลังจากนั้นก็ยังมีการพยายามที่จะพุ่งชนคนอื่นๆอีกอย่างไร  ufabet     ก็ตามหลังจากที่พยายามพุ่งรถเข้าชนคนอยู่ได้สักพักหนึ่งคนขับรถคันดังกล่าวก็ได้ขับรถหลบหนีไปซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่าในระหว่างที่รถพยายามขับเฉี่ยวไปชนคนอยู่นั้นก็มีผู้คนพยายามที่จะนำสิ่งของปลาใส่ไปที่รถคันดังกล่าวอยู่เป็นระยะอีกด้วย 

          หลังจากทั้ง 2 คลิปนั้นถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในคลิปนั้นเป็นเหตุการณ์ที่โอกาสเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์ก็อยู่ในช่วงระทึกขวัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

  ดังนั้นชาวโซเชียลจึงพยายามค้นหาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นที่จังหวัดไหนและเกิดขึ้นแถวบริเวณเส้นถนนอะไรแต่ก็ไม่สามารถที่จะหาข้อมูลได้ล่าสุดได้มีการเปิดเผยออกมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนามไม่ใช่ที่ประเทศไทย 

        สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในคลิปถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวของต่างประเทศและเราอยู่ประเทศไทยแต่เราก็สามารถรับรู้เรื่องราวของชาวต่างชาติได้ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศเวียดนามเท่านั้น

แต่เรายังสามารถรับรู้เรื่องราวของหลายประเทศทั่วโลกได้เพียงเชื่อมต่อผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเพราะตอนนี้หากที่ไหนมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเราก็สามารถรับรู้ข่าวสารของทั่วทุกมุมโลกได้นั่นแสดงให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญต่อชีวิตคนเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียวทำให้เรานั้นสามารถรับรู้ข่าวสารและติดต่อสื่อสารกันได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม 

            เมื่อวันที่ 13 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ซึ่งเป็นวันตรงกับวันสงกรานต์ซึ่งโดยปกติแล้วประเทศไทยจะมีการจัดเทศกาลวันสงกรานต์มีการออกมาสาดน้ำปะแป้งกัน  โดยการจัดงานวันสงกรานต์นั้นโดยปกติไทยจะจัดทุกพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นจะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยเพราะอยากมาร่วมเทศกาลวันสงกรานต์อย่างไรก็ตามในช่วงประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยได้มีการระงับการจัดงานสงกรานต์เนื่องจากลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด

      สงกรานต์ คึกคัก ถนนข้าวสาร ครื้นเครง ล่าสุดใน ปีพ.ศ. 2565 นี้รัฐบาลได้มีการประกาศให้มีการจัดงานสงกรานต์ได้ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติต่างก็พากันดีใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งล่าสุดมีการรายงานข่าวออกมาว่าที่ถนนข้าวสารกรุงเทพฯนั้นผู้คนต่างพากันเดินทางมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต่างมาเล่นสาดน้ำกันด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ในซอยข้าวสารนั้นแทบทุกคนจะไม่มีใครสวมใส่หน้ากากอนามัยเลยทำให้หลายคนเป็นกังวล

             หลังจากที่เห็นภาพดังกล่าวว่าอาจจะเป็นจุดที่สามารถไปทำการแพร่ระบาดของไวรัสโควิตได้ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดเผยภาพที่นักท่องเที่ยวไม่ใส่แมสในตอนเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดินทางมาที่ซอยข้าวสารในช่วงเวลาเย็นเพื่อขอร้องให้นักท่องเที่ยวทุกคนนั้นหยุดเล่นน้ำในวันสงกรานต์กัน

           อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยออกมาว่าถึงแม้ว่าเซ็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาขอร้องแล้วแต่บรรดานักท่องเที่ยวนั้นก็ไม่ได้กระทำตามคำขอร้องของเจ้าหน้าที่เพราะช่วงเวลา 22:00 น แล้วแต่สงกรานต์ในถนนข้าวสารนั้นยังคงคึกคักอยู่ผู้คนยังคงออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็มีคนเข้ามาวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

โดยส่วนใหญ่นั้นมองว่าถ้าหากหมดช่วงเทศกาลวันสงกรานต์เชื่อว่าคนที่จะเหนื่อยมากที่สุดก็คือหมอและพยาบาลนั่นเองเพราะเชื่อว่าทุกคนอาจจะติดไวรัสโควิดจากการออกไปเล่นน้ำในวันสงกรานต์กันนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหลายคนจะหวาดกลัวว่าการออกมาเล่นน้ำในวันสงกรานต์นั้นอาจจะทำให้ไวรัส covid ระบาดมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็มีบางคนที่ไม่กลัวและอยากสนุกสนานในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์รวมถึงบรรดาแม่ค้าทั้งหลายก็ยังคงต้องเปิดกิจการเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้องตนเอง

และในครอบครัวซึ่งสุดท้ายแล้วในวันที่ 13 เดือนเมษายนนั้นถนนข้าวสารก็ปิดให้บริการในช่วงเวลาประมาณ เที่ยงคืน  ซึ่งจะมีการงดทั้งการเล่นน้ำ และร้านอาหาร รวมถึงผับ บาร์ ก็ต้องปิดตอนเที่ยงคืนเช่นกัน  

 

สนับสนุนโดย   ufabet

        พริตตี้สาวเกือบตายเพราะบราวนี่กัญชา นับตั้งแต่ที่มีการประกาศออกมาเกี่ยวกับกัญชาว่าสามารถซื้อขายได้อย่างเสรีและถูกต้องตามกฎหมาย  ทำให้ร้านอาหารรวมถึงเครื่องดื่มเยอะแยะมากมายที่มีการนำกัญชาใส่ลงไปในอาหารหรือแม้แต่ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง  ทำให้ปัจจุบันเราจึงต้องระมัดระวังเวลาที่จะซื้ออาหารหรือแม้แต่เครื่องดื่ม ว่ามีส่วนผสมของกัญชาหรือไม่

เพราะบางคนนั้นเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาใส่ลงไปทำให้เกิดอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลและมีหลายครั้งที่คนที่เผลอกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องเสียชีวิต

         สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับอาหารผสมกัญชานั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 เมื่อมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งระบุว่าตนเองเป็นพริตตี้  มีการรับงานเอนเตอร์เทน  แต่ภายในงานมีการให้รับประทานบราวนี่ผสมกัญชาซึ่งตัวพริตตี้เองก็ไม่รู้ว่าขนมที่มีคนยื่นให้กินนั้นมีส่วนผสมของกัญชาด้วยเมื่อกินเข้าไปก็เกิดอาการแพ้จนต้องเข้าโรงพยาบาลเกือบเสียชีวิต โชคดีที่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที 

       สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพริตตี้สาวคนดังกล่าวได้มีการเล่าว่าเธอรับงานเอนเตอร์เทนซึ่งเป็นงานเปิดตัวปลาโดยภายในงานมีการสร้างพริตตี้ไปทั้งหมดประมาณ 20 คนด้วยกันซึ่งสถานที่จัดงานนั้นอยู่แถวบริเวณสวนจตุจักร   พริตตี้สาวได้เล่าว่าในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในงานเลี้ยงปรากฏว่าได้มีผู้ชายนำขนมบราวนี่มาเสิร์ฟให้กับพริตตี้ ได้รับประทานซึ่งแต่ละคนนั้นก็แบ่งกันกินคนละชิ้นสองชิ้นเนื่องจากว่าพริตตี้ทุกคนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการกินข้าวไปก่อนล่วงหน้าจึงเกิดความรู้สึกหิว  

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่หญิงสาวรายนี้ได้กินบราวนี่ผสมกัญชาเข้าไปปรากฏว่าไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้นเธอก็มีอาการวิงเวียนหน้ามืดตาหนักไม่สามารถที่จะยืนทรงตัวได้นอกจากนี้ยังมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกและแน่นหน้าอกรวมถึงหายใจไม่ค่อยออกซึ่งเธอรู้เลยว่าเธออาจจะตายได้  ในขณะเดียวกันคนที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุก็รีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที  

       เมื่อไปถึงโรงพยาบาลทางคุณหมอได้มีการนำตัวพริตตี้สาวรายนี้เข้าห้องไอซียูและทำการตรวจคลื่นหัวใจ  ซึ่งในขณะที่รักษาอยู่นั้นพริตตี้สาวยืนยันว่าเธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแต่ พริตตี้สาวรายนี้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเธอนั้นชาขยับเขยื้อนไม่ได้  นอกจากนี้ขณะที่มีการรักษาอาการป่วยอยู่นั้นปรากฏว่าพริตตี้สาวรายนี้หัวใจเต้นอ่อนมาก 

        อย่างไรก็ตามนับว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีเพราะรักษาอาการป่วยอยู่ประมาณ 1 วันกว่าๆพริตตี้สาวรายนี้ก็ฟื้นแต่ก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลไปสองหมื่นกว่าบาท  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีพริตตี้ที่กินบราวนี่ผสมกัญชาเข้าไปและต้องเข้ารักษาอาการป่วยจำนวนหลายคน  แต่ทางเจ้าของงานกับไม่แสดงความรับผิดชอบโดยอ้างว่า Pretty พากันกินเองไม่มีใครบังคับและเจ้าของงานไม่รู้เรื่อง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ufabet

        สาวแทบร้องไห้  หลวงพ่อใช้ปากกาเคมี  เชื่อว่าใครที่มีการออกรถใหม่สิ่งหนึ่งที่หลังจากที่ขับรถออกมาจากโชว์รูมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คือการขับรถเข้าไปในวัดซึ่งส่วนใหญ่แล้ว

ก็มักจะเลือกวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังหรือว่าที่ตนเองนับถือแล้วขับรถไปให้พระสงฆ์ที่ตัวเองนับถือช่วยทำการเจิมรถให้เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วการเจิมรถนั้นคนที่นำรถไปทำการเจิมจะต้องมีการเตรียมของไปด้วยนั่นก็คือน้ำอบแป้งดินสอพองดอกไม้ธูปเทียนเพื่อที่หลวงพ่อจะได้มีการประกอบพิธีและทำการเจิมรถยนต์ให้

         อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันบางคนไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้าซึ่งจะต้องเป็นหลวงพ่อหรือพระสงฆ์ที่ทำการเจิมรถนั้นเตรียมให้และปัญหาที่ตามมาก็คือบางครั้งหลวงพ่อเตรียมหาสิ่งของที่จะทำการเจิมไม่ทันนั่นก็คือดินสอพองกับน้ำอบทำให้หลายครั้งที่หลวงพ่อทำการเจิมรถด้วยการใช้ปากกาเคมีเขียนยันต์ไว้บนด้านในของหลังคารถซึ่งทำให้เจ้าของรถนั้นแทบจะร้องไห้เลยทีเดียวก็ว่าได้เพราะปากกาเคมีนั้นเราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันไม่สามารถที่จะลบออกได้ถ้าหากนำไปเขียนไว้กับอะไรแล้วนั่นเอง 

          ล่าสุดได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์คลิปลงใน Application tiktok

โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอไปออกรถใหม่ป้ายแดงออกมาเลยทีเดียวเมื่อวันที่ 6 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 และด้วยความเชื่อของคนไทยและความเชื่อของเธอเองหลังจากที่ออกรถใหม่มาแล้วเธอก็อยากที่จะให้รถของเธอนั้นขับไปไหนก็ราบรื่นมีแต่ความปลอดภัยเป็นความเป็นการเพิ่มความสิริมงคลให้กับตัวเองจึงได้มีการนำรถใหม่ป้ายแดงนั้นไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่อให้พระสงฆ์ทำการเขียนยันต์เจิมรถให้

            อย่างไรก็ตามในระหว่างที่หญิงสาวรายนี้ได้มีการถ่ายคลิปในขณะที่พระสงฆ์ทำการเจิมรถให้เธอพบว่ารถมินิมอลน่ารักของเธอนั้นถูกพระสงฆ์ใช้ปากกาเคมีเขียนยันต์ซึ่งทำให้เธอนั้นตกใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะสามารถที่จะลบยันต์ที่เขียนด้วยปากกาเคมีได้อย่างไรเธอจึงได้มีการโพสต์คลิปนี้ลงในโซเชียลเพื่อขอความคิดเห็นของทางโซเชียลถึงวิธีการลบ  

        อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจนั้นไม่ได้เป็นการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของวิธีการลบหมึกปากกาให้กับหญิงสาวรายนี้แต่เป็นการพูดถึงความคิดเห็นของคนไทยเกี่ยวกับเรื่องของการเจิมรถว่านเป็นความเชื่อของคนในสมัยโบราณซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งเจิมรถกันเพราะต่างประเทศเองก็ไม่เคยมีใครที่จะเอารถไปทำการเจิมกับพระสงฆ์และต่างประเทศเองก็ไม่ได้มีการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าประเทศไทยหรือเกิดกว่ามากกว่าประเทศไทยที่มีการเจิมรถเลย

            ดังนั้นถ้าหากต้องการความเป็นศิริมงคลขับรถไปไหนแล้วแค่ค่าปลอดภัยก็แค่ขับรถอย่างระมัดระวังและตั้งใจก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุเรานั่นเองไม่จำเป็นที่จะต้องเอารถมาเจิมจนทำให้รถนั้นเป็นรอยและไม่สามารถลบออกได้เหมือนกับหญิงสาวรายนี้

 

สนับสนุนโดย    ufabet

            เนื่องจากว่าโทรศัพท์มือถือนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถเป็นกล้องถ่ายรูปถ่ายเป็นคลิปวีดีโอได้ดังนั้นเรามักจะเห็นข่าวเป็นประจำว่ามีคลิปหลุดออกมาซึ่งเป็นคลิปลับของบรรดาสาวๆทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นคลิปที่ตนเองถอดเสื้อผ้าหรือคลิปที่ช่วยตนเอง

สตรีมเมอร์สาวชาวจีน หรือบางทีก็เป็นคลิปที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่รักของตนเองถูกนำเอามาแชร์ในโลกออนไลน์

            อย่างไรก็ตามเมื่อมีคลิปลับหลุดออกมาและเมื่อมีการตรวจสอบลึกลงไปก็จะเห็นว่าขึ้นต่างๆเหล่านั้นมักจะถูกปล่อยออกมาจากอดีตแฟนหรืออดีตสามีของสาวๆเหล่านั้นเพราะหลังจากที่เลิกรากันไปแล้วฝ่ายชายก็มักจะนำคลิปลับของฝ่ายหญิงมาแชร์ในโลกออนไลน์เพื่อเป็นการประจานหรืออาจจะเป็นการข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงินทอง 

            ดังนั้น สาวๆจึงไม่ควรที่จะมีการถ่ายคลิปที่เป็นความลับของตนเองที่เป็นภาพโป๊หรือภาพความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มของตนเองเพราะถ้าหากเลิกกันไปแล้วเราก็ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าผู้ชายจะนำความลับของเราไปเปิดเผยสร้างความอับอายให้กับเราได้ 

        ล่าสุดมีเรื่องราวของสาวคนดังของประเทศจีนรายนึงเธอเป็นสตรีมเมอร์สาวที่ได้รับความนิยมจากบรรดาชาวโซเชียลเป็นอย่างมากถูกนำคลิปลับที่หญิงสาวรายนี้ได้ทำท่ายั่วยวนเซ็กซี่และไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรในคลิปจะเห็นใบหน้าของหญิงสาวรายนี้อย่างชัดเจนรวมถึงรอยสักที่เป็นเอกลักษณ์ที่ใครเห็นรอยสักนี้ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตาก็รู้ดีว่าต้องเป็นสตรีมเมอร์สาวรายนี้อย่างแน่นอน 

          อย่างไรก็ตามเจ้าของคลิปดังกล่าวนั้นเธอเป็นสตรีมเมอร์สาวชาวจีนที่ชื่อว่า ฉีเจียลี่   หลังจากที่คลิปของเธอถูกแชร์กันในโลกออนไลน์และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก สตรีมเมอร์สาวรายนี้ก็ได้ออกมายอมรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าหญิงสาวที่อยู่ในคลิปนั้นคือตัวของเธอเองและคนที่ถ่ายคลิปนั้นก็คือตัวเธอเองซึ่งเป็นการตั้งใจถ่ายเก็บไว้ดูเล่นโดยมีเธอซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปเพียงคนเดียวที่มีคลิปดังกล่าวแต่เธอไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปดังกล่าวออกไปเพราะมันสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับเธอซึ่งเธอมองว่าคนที่นำคลิปไปปล่อยนานน่าจะเป็นอดีตแฟนหนุ่มของเธอเพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนของเธอได้ไม่กี่วันที่ผ่านมาก่อนที่คิดจะหลุด

         อย่างไรก็ตาม ฉีเจียลี่  ได้ออกมาโพสต์ในโลกออนไลน์ระบุว่าการถ่ายคลิปโป๊เป็นเรื่อง ส่วนตัวเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคลแต่การที่คนอื่นนำคลิปส่วนตัวของเธอมาเผยแพร่รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางที่ไม่ดีเป็นความรุนแรงบนโลกออนไลน์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น 

 

สนับสนุนโดย  ufabet

       เชื่อว่าหลายคนคงกำลังจับตามองว่าท้ายที่สุดแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนจนได้ผลสรุปออกมาแล้วการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโมภัทรธิดานี้

    การเสียชีวิตของ แตงโม  นิดา  จะเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่เนื่องจากว่าผู้คนทั้งประเทศไม่มีความคิดเห็นว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้จะเกิดจากการที่เป็นอุบัติเหตุซึ่งหลายคนเชื่อว่าน่าจะมีลับลมคมในอะไรสักอย่างและผู้กระทำความผิดก็อยู่ในคนที่อยู่บนเรือพร้อมกับแตงโมภัทรธิดานั่นเอง

         อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นมีคนที่อยู่บนเรือทั้งสิ้นจำนวน 6 คนซึ่งรวมถึงแตงโมนิดาที่เป็นผู้เสียชีวิตด้วยแต่พฤติกรรมของคนบนเรือทั้ง 5 คนที่ออกมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็บอกว่าแตงโมนิดาตกเรือเองเนื่องจากว่าไปนั่งที่บริเวณท้ายเรือเพราะต้องไปทำธุระส่วนตัวทำให้ชาวโซเชียลต่างก็ไม่มีความเชื่อมั่นกับข้อมูลเหล่านี้นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าการที่เพื่อนของตนเองตกเรือแต่ทุกคนนั้นไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          ทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พักและหายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้จนเวลาผ่านไปวันกว่าๆจึงเดินทางเข้ามาที่สถานีตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและยังมีการนำทนายความมาด้วยทำให้หลายคนสงสัยถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของดาราสาวกันเป็นอย่างมากจนทำให้ชาวโซเชียลนั้นต้องออกมาวิเคราะห์ว่าการเสียชีวิตของดาราสาวนั้นน่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในเรือและไม่ใช่การเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุแต่อาจจะถูกฆาตกรรมก็เป็นไปได้ 

        สำหรับการวิเคราะห์ของชาวโซเชียลส่วนใหญ่มองว่าแตงโมนิดาน่าจะถูกผู้จัดการส่วนตัวหลอกให้มาขึ้นเรือโดยผู้จัดการส่วนตัวนั้นน่าจะมีการรับงานโดยที่ไม่บอกดาราสาวโดยงานที่รับมานั้นน่าจะเป็นงานที่ดาราสาวไม่อยากทำงานก็คืองานเอนเตอร์เทนนั่นเองแต่เมื่อดาราสาวขึ้นมาบนเรือแล้ว  ufabet    และมารู้ภายหลังว่าผู้จัดการมีการรับงานโดยที่ไม่บอกเธอและเป็นงานที่เธอไม่รับทำจึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นและอาจจะเกิดการยื้อแย่งกันเกิดขึ้นซึ่งอาจจะเกิดการพลัดตกเรือก็เป็นไปได้

        อย่างไรก็ตามแต่ชาวโซเชียลได้พยายามค้นหาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและมีการดูคลิปต่างๆมากมายจนทำให้เกิดการวิเคราะห์การล่าสุดว่าสาเหตุที่ดาราสาวเสียชีวิตนั้นอาจจะไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุของการตกเรือแต่อาจจะถูกคนบนเรือใช้ขวดแชมเปญตีหัวจนสลบแล้วถูกโยนทิ้งน้ำทำให้ดาราสาวนั้นไม่สามารถที่จะพยุงตัวเองว่ายน้ำเข้าไปที่ฝั่งได้และเสียชีวิตในที่สุดนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามข้อมูลต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงแค่มุมของการวิเคราะห์ของชาว Social ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไรคงต้องรอดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะมีการสรุปสำนวนคดีอย่างไรที่จะไม่ค้านความคิดของประชาชนและมีหลักฐานที่สามารถอ้างอิงได้ว่าสำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปออกมานั้นเป็นเรื่องจริงไม่ได้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพราะต้องการให้ผู้ต้องหาพ้นผิด 

       จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 ได้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเกิดขึ้นเมื่อผู้เป็นพ่อตัดสินใจที่จะฆ่าตัวเองและลูกชายวัย 4 ขวบด้วยการจุดไฟเผาภายในรถกระบะ

ซึ่งจอดอยู่ภายในซอยเรณูอุทิศจังหวัดปทุมธานีซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลทำให้เด็กชายวัย 4 ขวบนั้นเสียชีวิตส่วนผู้เป็นพ่อยังคงรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล

     อย่างไรก็ตามเรื่องราวเศร้าสลดนี้ทั้งชาวบ้านที่อยู่ในช่วงจังหวะที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้มีการเล่าเรื่องราวที่บีบคั้นหัวใจและน่าเศร้าสลดนี้ให้กับทางนักข่าวฟังโดยระบุว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นผู้เป็นพ่อของเด็กชายได้มาอุ้มลูกชายของตนเองที่กำลังเล่นอยู่กับเพื่อนไปขึ้นรถกระบะหลังจากนั้นก็มีการขับวนภายในหมู่บ้านประมาณ 2 รอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว

จึงนำรถกระบะมาจอดไว้หน้าห้องเช่าหลังจากนั้นผู้เป็นพ่อก็ได้มีการไปนำน้ำมันมาล่าภายในรถและจุดไฟเผาซึ่งในขณะนั้นมีคนอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องเช่านั้นเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าชายคนดังกล่าวจะก่อเหตุที่น่าเศร้าสลดใจเช่นนี้

        อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ภายในรถปรากฏว่าหนูน้อยวัย 4 ขวบได้มีการวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวโดยพยายามที่จะบอกให้ชาวบ้านไปช่วยเหลือพ่อของตนเองว่าถูกไฟไหม้ในขณะเดียวกันตัวหนูน้อยเองที่ถูกไฟลวกจนผมหายไปหมดและมีเลือดออกตามร่างกายก็พยายามที่จะไปดึงสายยางเพื่อนำน้ำไปฉีดดับไฟให้กับผู้เป็นพ่อของตนเอง  

         เหตุการณ์ในครั้งนี้นางจินินซึ่งเป็นคนที่หนูน้อยวัย 4 ขวบพึ่งมาขอความช่วยเหลือได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าในขณะที่เด็กนั้นได้รับบาดเจ็บทางร่างกายแต่ก็ยังคงเป็นห่วงพ่ออยู่ตลอดเวลาโดยบอกให้นางชินนั้นไปช่วยเหลือพ่อพ่อร้อนและในขณะที่หนูน้อยมาขอความช่วยเหลือนั้นไม่มีอาการร้องไห้หรือหวาดกลัวแม้แต่นิดเดียวซึ่งตัวเธอเองนะรู้สึกสงสารเด็กเป็นอย่างมากเธอจึงรีบนำเด็กนั้นไปส่งโรงพยาบาลในขณะเดียวกันก็บอกให้ชาวบ้านคนอื่นไปดูพ่อของเด็กซึ่งได้นอนตะแคงแน่นิ่งไปแล้วโดยเมื่อชาวบ้านเห็นดังนั้นก็รีบมีการโทรตามรถพยาบาลให้มารับร่างของพ่อของเด็กไปที่โรงพยาบาลทันที

        อย่างไรก็ตามเมื่อถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลได้ให้เด็กและพ่อนอนอยู่ในห้อง ICU ห้องเดียวกันโดยมีการนอนอยู่เตียงข้างๆกันซึ่งระหว่างนั้นเด็กยังคงพยายามบอกกับนายแพทย์ให้ช่วยรักษาพ่อของตนเองด้วย  นางจินินเล่าว่าตัวเธอนั้นได้มีการเฝ้าเด็กจนถึง 23:00 น หลังจากกลับมาถึงบ้านก็ได้ทราบข่าวว่าเด็กเสียชีวิตแล้วตอนประมาณ 01:00 น 

        เบื้องต้นชาวบ้านได้มีการรับศพของเด็กชายวัย 4 ขวบมาบำเพ็ญกุศลและจะมีการสวดศพเป็นระยะเวลา 3 คืนก่อนที่จะมีการเผาซึ่งชาวบ้านทุกคนอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจและรู้สึกสลดใจกับการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 4 ขวบในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ufabet

      คดีการเสียชีวิตของแตงโม เชื่อว่าเมื่อพูดถึงข่าวของการเสียชีวิตของแตงโมนั้นผ่านมานานเกือบจะ 1 เดือนแล้วแต่ความคืบหน้าของคดีนี้แทบจะมองไม่เห็นเลยและเชื่อว่าหลายคนอยากจะมูฟออนกับเรื่องนี้แล้วแต่ก็ไม่สามารถมูฟออนไลน์เนื่องจากว่ายังคงมีความสงสัยอยู่มากมายและอยากจะให้ความจริงกระจ่างอยากจะให้ดาราสาว ได้รับความเป็นธรรมถึงแม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม 

สำหรับคดีของดาราสาวแตงโมตกเรือเสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยานั้นถ้าหากเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุเชื่อว่าคนในสังคมไทยและสังคมชาวต่างชาติคงไม่มีใครอยากจะค้นหาความจริงมากนัก

ถ้าหากการดำเนินคดีสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นไปในทิศทางที่มีความโปร่งใสและคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นไม่มีการแสดงพิรุธออกมาใดๆรวมถึงไม่มีข่าวลือออกมาหนาหูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนของการเสียชีวิตของแตงโมนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามหากใครติดตามข่าวของแตงโมจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นทนายความของแม่ของแตงโมหรือแม้แต่ตัวคุณแม่ของแตงโมรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาทำคดีการเสียชีวิตของแตงโมนั้นต่างก็พยายามอยากจะให้คดีของแตงโมนั้นติดโดยเร็วโดยพยายามที่จะปิดคดีด้วยการบอกว่าเป็นอุบัติเหตุและคนบนเรือ 5 คนซึ่งเป็นเพื่อนของแตงโมและเป็นผู้จัดการส่วนตัวของแตงโมนั้นไม่ได้มีความผิดแต่หลังจากที่คนในสังคมนั้นรูปแทงใจและไม่เชื่อใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการออกมาตั้งคดีว่าเป็นการประมาทจนทำให้แตงโมเสียชีวิต

       สำหรับสิ่งที่ค้างคาใจของผู้คนในสังคมไม่ว่าจะเป็นสังคมในไทยหรือสังคมต่างประเทศก็ตามยังมีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่าการเสียชีวิตของแตงโมในครั้งนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุจริงหรือไม่หรือมีอะไรที่ลึกมากกว่านั้นหรือไม่  เพราะสาเหตุของการตกน้ำเนื่องจากว่าจะไปฉี่ที่บริเวณท้ายเรือนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นนอกจากนี้คนบนเรือที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังแสดงพิรุธมากมาย  ทั้งไม่ยอมให้ตรวจร่างกายไม่ยอมให้ตรวจฉี่ไม่ยอมให้ตรวจสารเสพติดให้กับปากคำช้าและยังมีการว่าจ้างทนายหลายทีมเข้ามาดูแล

         นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ประชาชนมั่นใจมากที่สุดว่าคดีของแตงโมนั้นอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ    ufabet    ก็เพราะว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองที่ไม่ยอมเก็บพยานหลักฐานต่างๆพยายามที่จะปิดคดีให้เร็วโดยมีการปิดคดีเป็นอุบัติเหตุและพยายามช่วยเหลือผู้กระทำความผิด  

      อย่างไรก็ตามคดีของแตงโมนี้จะเป็นคดีที่ทำให้ประชาชนนั้นเกิดความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือว่าจะหมดศรัทธาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขึ้นอยู่กับผลการสืบสวนคดีนี้นั่นเอง

สิ่งที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา  การตั้งชื่อเด็ก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องราวที่เราเองก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้  สิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  มันเกี่ยวข้องกับสิ่งของที่ดูไม่น่าจะขายได้ในโลกออนไลน์  แต่ก็มีการนำมาโพสต์ขาย 

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆที่จะมีคนมาโพสต์ขายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการตั้งชื่อลูกให้กับตนเอง  ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมันจะมีความเป็นไปเป็นมายังไงจะมีคนเข้ามาประมูลหรือว่ามาซื้อหรือเปล่าก็ติดตามกัน 

การตั้งชื่อลูกถือได้ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ยากมากๆเลยทีเดียวสำหรับใครหลายคน  แต่ว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถของพ่อแม่  ที่จะตั้งชื่อให้กับลูกของตัวเอง  ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องราวที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก  การตั้งชื่อลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก  แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการตั้งชื่อลูก นี้เองสามารถนำมาโพสต์ขายในโลกออนไลน์ได้

  ซึ่งเรื่องราวนั้นจะเป็นยังไง  ก็ติดตามกันเมื่อปี 2009 ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอก็ประกาศขายสิทธิ์ในการตั้งชื่อลูก  ของเธอลงใน eBay ซึ่งแน่นอนว่าใน 4 ครั้งแรกที่เธอประกาศนั้นทีมงาน eBay ได้ยกเลิกมันได้  เพราะความเพียรพยายามของเธอประกาศในครั้งที่ 5 ทีมงานอาจจะมองไม่เห็น  และมันจะจบลงที่ราคาประมูล 6800 เหรียญสหรัฐ หรือราวกว่า 2 แสนบาท  อย่างไร

    ก็ตามก็เป็นไปตามที่คาด  คงไม่มีใครอยากเสียเงินไปฟรี 2 แสนบาท  แลกกับการที่ต้องตั้งชื่อลูกให้คนอื่นด้วยนะ  สุดท้ายเดี๋ยวนี้ก็ตามดีลนี้ก็ไม่สำเร็จ  เพราะผู้ชนะไม่ได้ควักกระเป๋าจ่าย ซึ่งเขาต้องการเล่นสนุกกับการประมูลก็เท่านั้นเอง การขายของผ่านโซเชียลหรือว่าผ่านโลกออนไลน์นั้น 

เป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนก็สามารถที่จะทำได้ และแน่นอนก็มีมาคน  ที่จะมาโพสต์ขายสิ่งแปลกๆไม่ว่าจะเป็นการขายซากวาฬสเปิร์มหรือแม้แต่การขายวิญญาณของมนุษย์  นอกจากนี้คุณรู้หรือเปล่า  ก็ยังมีการมาโพสต์ขายถุงพลาสติกที่ใช้แล้วด้วยเหตุผลมากมาย  แน่นอนว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะขายได้ 

แต่ก็ยังมีคนมาโพสต์ขายหรือ  ก็ไม่แน่ว่ามันก็อาจจะขายได้  แต่ถ้าคุณอยากจะรู้ว่ามันขายได้หรือเปล่า  แต่ไม่สามารถที่จะขายได้ต้องศึกษาค้นหาข้อมูลดู  ก็คงอาจจะมีอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ต และก็เชื่อได้เลยว่าถ้าหากคุณได้ลองค้นหาดูแล้วอาจจะพบอะไรที่แปลกใหม่กว่า  ที่เราที่กล่าวไปข้างต้นก็อาจจะเป็นไปได้ซึ่งๆนี้ก็รอให้คุณไปทำความรู้จักเกี่ยวกับมันอยู่

 

สนับสนุนโดย.  ufabet