เจ้าสาวเทเจ้าบ่าวกลางงาน  เมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2564  เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นชาวยิปซี โดยหญิงสาวรายนี้มีชื่อว่า ซีเรีย  ตามรายงานข่าวระบุว่า หญิงสาวรายนี้อาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยเธออาศัยอยู่ในเมืองอัลเบอร์ดีน รัฐแมรี่แลนด์ 

       สิ่งที่ทำให้ ซีเรีย กลายเป็นคนดังในข่าว เพราะว่าเรื่องราวของเธอที่มีการนำเผยแพร่ เกี่ยวกับเรื่องราวความรักของเธอที่เธอระบุว่ามันคือความทรงอันเลวร้ายอย่างหนึ่งในชีวิตขอฌธอ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เธออายุ 24 ปี และเธอได้รัดินใจแต่งงานกับแฟนหนุ่มของเธอที่ชื่อว่า แซม โดยทั้งคู่คบกันมานานหลายปีแล้ว 

    อย่างไรก็ตาม จากที่งานแต่งงานที่เจ้าสาวทั้งหลายไฝ่ฝันถึง จะว่าสวยงาม หรูหรา เป็นที่กล่าวขวัญถึงและเป็นที่อิจฉาสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับซีเรียแล้ว ไม่ใช่แม้แต่นิดเดียว เพราะในวันแต่งงานของเธอนั้นเธอต้องมาเจอกับเรื่องราวที่มันทำให้เธอต้องโกรธจัดจนในที่สุด เธอก็ตัดสินใจล้มการแต่งงานของเธอ และหนีเจ้าบ่าวออกจากงานทั้งที่การจัดงานแต่งงานนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์

        ซีเรีย ได้กล่าวว่า ในช่วงที่เธอได้เดินทางไปถึงสถานที่ในการจัดงานนั้น เธอได้พบว่าเจ้าบ่าวของเธอนั้นได้กินเหล้าเข้าไปเป็นจำนวนมาก และแทบจะไม่สามารถรับรู้เรื่องราวอะไรได้ เจ้าบ่าวของซีเรียเมามาก และแทบจะยืนไม่อยู่ แถมพูดคุยก็แทบจะไม่รู้เรื่อง ตามร่างกายของเจ้าบ่างมีแต่กลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมด โดยซีเรียเล่าว่าตอนที่ทำพิธีสวมแหวน เจ้าบ่าวก็ทำแหวนตกพื้น  พอถึงตอนที่จะตัดเค้กและต้องคุยกับแขกที่มาร่วมงานก็พูดไม่รู้เรื่องทำให้เธออับอายมาก

         ในที่สุด ซีเรีย ก็ทนความอับอายไม่ไหว เธอได้เอาเค้กแต่งงานปาใส่หน้าเจ้าบ่าวของเธอและวิ่งออกมาจากงานแต่งงาน ท่ามกลางแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ออกมาจากงานแต่งานเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะภายในงานมีแฟนเก่าของซีเรียมาร่วมงานด้วย และเมื่อเขาเห็นการกระทำของเจ้าบ่าว และการที่เจ้าสาววิ่งออกมาจากงานแต่งของตัวเอง ก็ทำให้แฟนเก่าของซีเรีย เข้ามาพูดคุยกับเธอ และบอกเธอว่าเขายังคงรักเธออยู่และไม่สามารถลืมเธอได้ และนั่นทำให้ ซีเรีย ตัดสินใจออกมาจากงานแต่งของตัวเองพร้อมกับแฟนเก่า และไม่เพียงแค่พากันวิ่งออกมาจากงานแต่งเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังจูบกันให้เจ้าบ่าวและแขกที่มาร่วมงานแต่งเห็นอีกด้วย ทำให้การแต่งงานในครั้งนี้จบไม่สวย และกลายเป็นข่าวดังทันที

  ลูกทรพี ฆ่าแม่บังเกิดเกล้าหลอนยา  เมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ช่วงเวลาประมาณ 14.40 น. ได้เกิดเหตุสะเทือนใจขึ้นเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีหญิงชรารายหนึ่งเสียชีวิตอยู่ในบ้านพักสาเหตุเนื่องจากว่าลูกชายมีอาการเมายาแล้วเกิดเป็นภาพหลอนคิดว่าแม่ของตนเอง

เป็นผีปอบจึงได้ใช้ครบทุกใบที่บริเวณศีรษะหลังจากนั้นก็ใช้มีดเฉือนตามร่างกายจนเสียชีวิตสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านอ่าวสีเสียดซึ่งอยู่ใน  อำเภอพนมสารคาม   จังหวัดฉะเชิงเทรา 

         เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พนมสารคามได้รับแจ้งเหตุก็รีบเดินทางไปบ้านหลังดังกล่าวทันที  สำหรับจุดเกิดเหตุนั้นตั้งอยู่ตรงบริเวณกลางไร่ชะอมเป็นเพิงที่พักซึ่งภายในพบศพของหญิงชราวัย 67 ปีโดยชาวบ้านระบุว่าหญิงชราคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานหลายปีแล้วซึ่งหญิงชราคนดังกล่าวอยู่กับลูกชาย 2 คนชื่อว่านายกนก  อายุ 44 ปี 

         จากการให้ข้อมูลของชาวบ้านระบุว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้วิ่งออกไปตะโกนบอกกับชาวบ้านว่าได้ฆ่าแม่ตนเองเสียชีวิตเนื่องจากว่าแม่ของตนเองนั้นเป็นผีปอบหลังจากนั้นก็วิ่งหายไปซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปทำการซ่อมตัวหลบหนีพบแรงความผิดในขณะเดียวกันชาวบ้านก็ได้มีการประสานงานแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านและตามลูกชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุให้เดินทางมาดูศพของแม่

        เมื่อทางด้านที่ใช้เดินทางมาถึงก็ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องชายนั้นเคยมีประวัติมีอาการทางจิตและเคยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลมาน้องชายก็มีพฤติกรรมที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนอกจากนี้มักจะดื่มเหล้าอยู่เป็นประจำแต่โดยปกติแล้วน้องชายของเขาจะเป็นคนนิสัยดีและเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งในขณะที่ให้ข้อมูลนั้นทางด้านพี่ชายคนโตก็ยังไม่เชื่อว่าน้องชายของตนเองจะฆ่าแม่จนเสียชีวิต

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้งผู้ก่อเหตุเองให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าแม่ตนเองจริงเนื่องจากว่าแม่ชอบดุด่าเป็นประจำและชอบใช้งานทำให้เขานั้นไม่ค่อยพอใจสบโอกาสที่แม่อยู่กับเขาเพียงแค่สองคนเท่านั้นจึงได้ลงมือฆ่าแม่หลังจากนั้นจึงได้ไปบอกชาวบ้านว่าตนเองได้ฆ่าแม่แล้วอย่างไรก็ตามทางผู้ก่อเหตุยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเขาตั้งใจทำและไม่เคยเสียใจที่เขาได้ฆ่าแม่ของเขาเลย 

    อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการสอบสวนและเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้เรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดอย่างหนักเนื่องจากว่าได้มีการฆ่าบุพการีของตนเองซึ่งถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บแม่

           สองสามีภรรยาตากับยายตาย  วันที่ 31 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 ช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันเจ้าหน้าที่ตำรวจของสน. หนองแขมได้รับแจ้งว่ามีคนตายอยู่ภายในบ้านพัก  gclub ฝากออโต้  โดยสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์จำนวน 2 ชั้นและจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีทั้งหมดด้วยกัน 2 คน

และยังมีผู้ป่วยที่จำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนอีกจำนวนหนึ่งคนภายในพื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าวดังนั้นเมื่อหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจึงรีบไปยังบ้านหลังดังกล่าวทันที

           เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าไป Way ภายในตัวบ้านพบว่าภายในบ้านนั้นมีชายชราเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำลักษณะของศพนั้นไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า

และนั่งเสียชีวิตบนชักโครกในขณะที่อีกศพหนึ่งนั้นเป็นผู้หญิงสูงอายุนอนเสียชีวิตอยู่ตรงห้องน้ำบริเวณด้านหน้าอย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสำรวจภายในบริเวณบ้านก็พบว่ายังมีชายชราอีกคนนึงอยู่ตรงบริเวณโต๊ะไม้ภายในบ้านซึ่งชายชราคนดังกล่าวนั้นอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงมากแล้ว 

         ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งนำตัว ชายชราที่มีชีวิตอยู่ส่งโรงพยาบาลทันทีอย่างไรก็ตามผู้ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุดังกล่าวนั้นคือหลานสาวของทั้ง 3 คน

โดยเธอนั้นมีอายุ 20 ปีให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบ้านหลังนี้มีคนสูงอายุอยู่รวมกันทั้งหมด 3 คนซึ่งคนที่ตายนั้นเป็นสามีภรรยากันส่วนคนที่มีชีวิตอยู่แล้วอาการอ่อนแรงอยู่นั้นเป็นน้องชายของฝ่ายชาย  

         อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 23 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2554 ที่ผ่านมาคุณยายของเธอได้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิช- หลังจากนั้นเมื่อคุณยายกลับมาถึงบ้านก็มีอาการไม่สบายมีอาการไข้ขึ้นสูงในช่วงเวลากลางคืนและปวดเมื่อยเนื้อตัวซึ่งทุกคนก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วจึงมีการรอดูอาการโดยให้เลือกกินยาลดไข้

          อย่างไรก็ตามผ่านไปหลายวันแล้วแต่อาการของคุณยายก็ไม่ดีขึ้นนอกจากนี้เธอยังได้มีการซื้ออุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัส covid แบบ   antigen  Test  มาตรวจให้กับคุณยายและคุณตาของเธอซึ่ง หลังจากใช้เครื่องตรวจก็พบว่า คุณตาและคุณยายของเธอนั้นติดเชื้อไวรัสโควิช- เธอจึงรีบโทรประสานงานกับโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือให้มารับคุณตากับคุณยายของเธอ

       อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอคิวอยู่นี้วันรุ่งขึ้นเธอก็ได้มาเยี่ยมคุณตาคุณยายตามปกติเพื่อนำอาหารมาให้แต่ปรากฏว่ามาถึงที่บ้านไม่มีคนมาเปิดประตูให้เธอจึงได้เดินเข้าไปในตัวบ้านเองแล้วก็พบว่าตาและยายของเธอเสียชีวิตในขณะที่ตาและของเธอนั้นก็อยู่ในสภาพร่างกายที่อ่อนแรงเธอจึงได้รีบประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังจุดเกิดเหตุ