ที่จังหวัดนนทบุรี  ตรงบริเวณแถวตลาดปากเกร็ด  เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหกโมงเย็น  เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยพนักงานร้านอาหาร KFC ได้มีการประกาศเตือนไปยัง KFC สาขาอื่นๆให้ระมัดระวังพฤติกรรมของลูกค้าสาวรายหนึ่งซึ่งมีการย้อมผมเป็นสีทองเวลาเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว

จ่ายเงินเสร็จและพนักงานทอนเงินให้ลูกค้าจะมีอาการโวยวายขึ้นมาทันทีโดยหาว่าพนักงานนั้นให้เงินทอนตนเองไม่ครบ ซึ่งในความเป็นจริงพนักงานได้มีการถอนเงินให้ลูกค้านั้นครบตามจำนวน    โดยพฤติกรรมนี้มองว่าลูกค้าตั้งใจที่จะก่อกวนและโกงเงินนั่นเองอย่างไรก็ตาม

พนักงานร้านยืนยันเกี่ยวกับเรื่องของการถอนเงินครบแล้วโดยมีการเปิดกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานให้ลูกค้าได้เห็นซึ่งเมื่อมีหลักฐานทางด้านลูกค้าก็ทำเป็นเหมือนกับว่าตนเองทำเงินร่วงลงที่พื้นหลังจากนั้นก็โวยวายให้พนักงานคืนเงินทั้งหมดและไม่ยอมซื้อสินค้าที่สั่งไปซึ่งพฤติกรรมนี้ไม่ได้ทำเองแค่ร้าน KFC ร้านเดียวเพียงเท่านั้นแต่ภายในวันเดียวกันนั้นยังมีร้านดังร้านอื่นที่โดนลูกค้าที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายกันนั้นมีพฤติกรรมการกระทำที่จะเอาเงินทอนเพิ่มเช่นเดียวกัน

         โดยพฤติกรรมที่เห็นจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับเงินทอนจากทางพนักงานแล้วเธอจะโยนแบงค์ 500 ลงที่พื้นทันทีหลังจากนั้นก็จะมีการโวยวายกับพนักงานว่าเงินที่ถอนให้นั้นเธอได้ไม่ครบซึ่งถ้าหากพนักงานไม่มีการตรวจสอบและให้เงินทอนเธอเพิ่มเธอก็จะได้เงินส่วนต่างตรงนั้นทันทีแต่บังเอิญว่าทั้ง 2 ร้านที่หญิงสาวคนดังกล่าวไปแสดงพฤติกรรมโวยวายนั้นพนักงานยืนยันเกี่ยวกับการถอนเงินที่ถูกต้องและยังมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่เห็นได้ว่าลูกค้ารับเงินไปครบจำนวนและเงินที่หายนั้นเป็นลูกค้าโยนลงพื้นเอง

         สำหรับพฤติกรรมในครั้งนี้ลูกค้าจะพยายามชำระเงินโดยการจ่ายแบงค์ 1000 ในขณะที่ซื้อสินค้าในราคาเพียงแค่ 50-60 บาทเท่านั้นเพื่อต้องการเงินทอน และเมื่อถูกจับได้ลูกค้าก็จะมีการขอยกเลิกรายการที่ซื้อและขอคืนแบงค์ 1,000 กับไปโดยที่สินค้าที่สั่งนั้นลูกค้าก็จะไม่เอาไปด้วย

        ดังนั้นร้านค้าภายในบริเวณพื้นที่ตำบลปากเกร็ดจึงได้มีการประสานงานบอกต่อๆกันเพื่อให้พนักงานทุกร้านคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าหากมีพฤติกรรมแบบนี้ว่าทอนเงินไม่ครบและโวยวายให้พยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่าเพิ่งเชื่อลูกค้าเพราะพฤติกรรมแบบนี้เป็นพฤติกรรมของการโกงจากกลุ่มวิชาชีพนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนัน ufabet

          ในช่วงเวลานี้คนในโลกออนไลน์ต่างก็ตื่นตัวกันมาก เมื่อมีคเข้ามาพูดถึง วิธีการทำให้ผิวขาว เพียงแค่ทาครีมเพียงเท่านั้น และในโลกออนไลน์นั้นมีการโฆษณาว่าครีมทาผิวดังกล่าวนั้น คือครีมทาผิว ยี่ห้อวาสลีน สีชมพู โดยมีการการันตีเอาไว้ว่า มีค่า SPF10++  และยังมีการเพิ่มหัวเชื้อ ซึ่งสิ่งที่มีการเพิ่มเข้ามานี้จะมีส่วนช่วยอย่างมากที่จะทำให้ผิวขาวเร็วขึ้นกว่าปกติ สำหรับครีมนี้มีการการันตีเอาไว้เลยว่าครีมจะมีการปรับสภาพให้ผิวขาวเร็วขึ้นกว่าครีมอื่นกว่ามากถึง 2เท่าเลยทีเดียว

            ที่สำคัญในขณะนี้มีคนเข้ามาแชร์การทาครีมของวาสลีน ผ่านทาง Application TikTok  กันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนที่ได้เห็นการแชร์ผิวขาวใน Application TikTok   อยากที่จะซื้อครีมทาผิวนี้มาใช้กัน ซี่งแน่นอนว่าคนที่อยากได้ครีมนี้ก็มีการหาที่ซื้อแต่เมื่อหาซื้อไม่ได้จึงต้องหาซื้อแบบพรีออร์เดอร์ 

        อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้มีการบอกกันต่อๆกันมาว่า มีคนที่รับออร์เดอร์โดยจะมีการสั่งเป็นแบบ พรีออร์เดอร์   และราคาขายก็แพงมาก โดยมีการขายสูงถึงขวดละ 450 บาทถึง 500 บาทเลยทีเดียว ในขณะที่หากมีการซื้อครีมทาผิวยี่ห้อนี้และสีนี้จากในประเทศไทยแล้ว  จะมีการจำหน่ายเพียงแค่ขวดละ 149 บาทเท่านั้น โดยมีขนาดปริมาณมิลลิกรัมเท่ากัน นั่นก็คือ 600 มล. 

     อย่างไรก็ตามได้มีคนเข้ามาแชร์ข้อมูลผ่านทางเฟสบุ๊กว่า ครีมทาผิวยี้ห้อวาสลีนที่กำลังมีการตามหากันอย่างมากอยู่ในตอนนี้นั้น หลายคนออกมาบอกว่าครีมที่ผู้คนกำลัง อยากได้และมีการสั่งแบบพรีออร์เดอร์นั้น เป็นสินค้าปลอมหรือที่เราเรียกกันว่าครีมทาผิวปลอมนั่นเอง โดยมีการระบุว่าครีมดังกล่าวจะมีการสั่งพรีออร์เดอร์มาจากประเทศจีน ซึ่งเรื่องนี้มีแม่ค้าและพ่อค้าที่มีการเปิดขายสินค้าออนไลน์ ออกมาช่วยกันบอกว่ากับลูกค้าที่นิยมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ 

           เพื่อเป็นการแจ้งเตือนถึงอันตราย   พ่อค้าหรือแม่ค้าบางคนได้มีการสั่งสินค้ากับทางจีนพอมารู้ว่าเป็นของปลอมก็มีการแจ้งยกเลิกออร์เดอร์กับลูกค้าทั้งที่บางคนมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้ามากถึงสามพันขวดเลยก็มี แต่เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าพ่อค้าและแม่ค้าที่มีจรรยาบรรณก็ไม่อยากทำร้ายลูกค้าของตัวเอง จึงไม่ยอมขายให้ เพราะชีวิตของคนสำคัญกว่าเงินนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

             มีเหตุการแชร์กันในโลกสังคม Facebook เมื่อมีคลิปของชายชราคนหนึ่งได้พูดต่อว่าคุณครูหนุ่มคนหนึ่งที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้ระบุว่าอยู่ที่จังหวัดอะไรและเป็นโรงเรียนไหนไปในคลิปจะเห็นว่าชายชราคนดังกล่าวนั้นพูดกับคุณครูด้วยอาการที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าจากในคลิปจะเห็นว่าใช้ชราพูดถึงเรื่องของการทำโทษเด็กของคุณครูซึ่งหลานชายของชายชรา นั้นอายุเพียงแค่ 7 ขวบ

แต่ถูกครูทำโทษด้วยการใช้ไม้แป๊บตีด้วยความรุนแรงและยังถูกถีบซ้ำทำให้เด็กนั้นเกิดความหวาดกลัวและอับอายเพื่อนๆที่โรงเรียนจนไม่กล้าเดินทางไปเรียนหนังสือและเมื่อชายชราเปิดก้นของหลานวัย 7 ขวบให้คุณครูดูจะเห็นถึงรอยเขียวช้ำค่อนข้างเยอะซึ่งเรื่องนี้  ได้มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องของการลงโทษเด็ก

โดยในคลิปคุณครูจะมีการอธิบายสาเหตุที่มีการลงโทษเด็กว่าเด็กนักเรียนวัย 7 ขวบนั้นได้มีการทะเลาะต่อต่อยตีกับเพื่อนๆจึงได้ถูกทำโทษด้วยการตีซึ่งผู้เป็นปู่ของเด็กชายก็เกิดความไม่พอใจที่ระบุว่าคุณครูนั้นลงโทษเด็กนักเรียนแรงเกินไปโดยเฉพาะเด็กอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้นที่สำคัญหากเด็กทะเลาะกันคู่ควรจะแยกเด็กและออกมาพูดคุยกันดีๆ

ไม่ควรลงโทษด้วยความรุนแรงมากขนาดนี้ แต่ในคลิปคุณครูที่ลงโทษเด็กก็จะมีการพูดโต้เถียงกับปู่ของเด็กด้วยว่าเด็กนั้นนิสัยไม่ดีเป็นเด็กเกเรและชอบทำร้ายเพื่อนจึงต้องลงโทษสถานหนักแต่ในอนาคตถ้าหากผู้ปกครองเด็กไม่อยากจะให้ตนเองนั้นสอนสอนเด็กตนเองก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวแล้วจะไม่ตีเด็กคนนี้อีกต่อไป

ซึ่งปู่ของเด็กก็ได้มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าวได้ว่าจะต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดโดยจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ  โดยชายชราที่เป็นปู่ของเด็กนั้นมองว่าการลงโทษเด็กที่เกินกว่าเหตุนั้นไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กอายุยังน้อยควรจะหันมาพูดจากับเด็กและสั่งสอนเด็กดีๆไม่ควรลงโทษด้วยความรุนแรงทั้งปีและทั้งถีบเด็กมากขนาดนี้

            สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อมีการแชร์กันออกไปมีหลายเสียงออกมาพูดถึงเรื่องนี้ซึ่งบางเสียงนั้นก็เข้าข้างคุณครูที่สามารถลงโทษเด็กด้วยการตีได้ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็เอามาพูดถึงเรื่องการลงโทษว่าครูลงโทษรุนแรงมากจนเกินไปควรจะมีการว่ากล่าวตักเตือนเด็กก่อนและถึงแม้ตีก็ไม่ควรตีเด็กด้วยความแรงมากขนาดนี้

 

สนับสนุนโดย  Royal casino

                ก่อนหน้านั้นเมื่อประมาณวันที่ 13 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากแม่ลูกคู่หนึ่งให้ดำเนินคดีกับแม่ค้าคนหนึ่งซึ่งขายพวงมาลัยคนหนึ่งที่หลอกขายพวงมาลัยปลอมผ่านทาง facebook ให้กับพวกเขาทั้งคู่ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นระบุว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 14 ปีจะได้เก็บเงินค่าขนมเพื่อไปทำการซื้อพวงมาลัยที่ทำมาจากแบงค์ 20 จากแม่ค้าคนหนึ่งที่เธอเห็นจาก Facebook

แต่หลังจากได้พวงมาลัยมาแล้วปรากฏว่าเช็คดูแล้วพวงมาลัยดังกล่าวนั้นมีแบงค์ปลอมปะปนอยู่ด้วยแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีจึงได้พาลูกมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับแม่ค้าคนดังกล่าวโดยแม่ของเด็กวัย 14 ปีระบุว่าหลังจากที่รู้ว่าพวงมาลัยที่ทำจากธนบัตรนั้นเป็นแบงค์ปลอมเธอก็ได้พยายามติดต่อไปที่แม่ค้าคนดังกล่าวแต่แม่ค้ากับบล็อก Facebook และไม่สามารถติดต่อได้เธอจึงมั่นใจว่าเธอถูกโกงอย่างแน่นอนจึงได้มาแจ้งความส่วนทางด้านแม่ค้านั้นได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้

ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาแบงค์ปลอมมาทำพวงมาลัยให้โดยเธอบอกว่าก่อนหน้าที่เด็กหญิงวัย 14 ปีจะมาสั่งทำพวงมาลัยนั้นมีเด็กคนนึงมาสั่งทำพวงมาลัยไว้ก่อนแล้วโดยเด็กคนดังกล่าวนั้นมีเงินไม่พอจึงให้เธอนั้นเอาแบงค์ปลอมปะปนเข้าไปกับแบงค์จริงในการทำพวงมาลัยหลังจากนั้นเด็กหญิงวัย 14 ปีก็ได้มาการสั่งพวงมาลัยอีก 1 พวงจึงทำให้เธอนั้นหยิบพวงมาลัยสลับกันลักษณะของพวงมาลัยนั้น

มีความคล้ายคลึงกันนั่นเองโดยยืนยันว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริงและเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงเด็กหญิงวัย 14 ปีอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากว่าแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปียืนยันว่าเธอไม่เชื่อคำให้การของแม่ค้าคนนั้นเนื่องจากพยายามติดต่อแล้ว

แต่แม่ค้าได้มีการบล็อคเฟซซึ่งถ้าหากแม่ค้าบริสุทธิ์ใจจริงก็ต้องมีการตอบโต้หรือพูดคุยเพื่อตกลงกันแต่นี่กลับปิดช่องทางการติดต่อแสดงว่าต้องการที่จะหลอกลวงอย่างแน่นอนดังนั้นเธอจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับแก๊งมิจฉาชีพนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่ไปหลอกลวงคนอื่นให้ได้รับความเสียหายเหมือนกับเธอและรูปเธอนั่นเอง

โดยคุณแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีนั้นยังบอกอีกด้วยว่าสิ่งที่แม่ค้าขายของทำนั้นเป็นการทำร้ายความรู้สึกของเด็กอย่างมากเพราะลูกสาวของเธอนั้นมีความตั้งใจที่จะเก็บเงินเพื่อซื้อพวงมาลัยให้กับแม่แต่กลับมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ซึ่งมันเป็นการทำร้ายจิตใจของเด็กอย่างมากนั่นเองดังนั้นเธอจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มีการดำเนินการกับแม่ค้าคนดังกล่าวเพื่อที่เธอนั้นจะได้หลับจำและไม่ไปทำกับคนอื่นอีก

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์ ได้เงินจริง