ลูกทำร้ายพ่อตนเองตายคาบ้าน เมื่อวันที่ 8 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ที่จังหวัดบุรีรัมย์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านตะโก   สำหรับผู้ที่พบศพผู้เสียชีวิตคนแรกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่นักพัฒนาชุมชน อบต. บ้านยางชื่อว่านางรติมา  

โดยนางรติมาได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองนั้นเป็นคนที่ประสานงานติดต่อกับรูปของผู้เสียชีวิตมาโดยตลอดเนื่องจากว่าจะต้องมีการพาลูกของผู้เสียชีวิตซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุในครั้งนี้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับยารักษาอาการป่วยจิตเวช

          นางรติมเล่าว่า ผู้ป่วยชื่อว่านาย ตาล ได้มีการรักษาอาการป่วยนี้มานานหลายปีแล้วส่วนใหญ่แล้วจะไปรับยาอยู่ที่โรงพยาบาลเสริมสุขภาพตำบล   อย่างไรก็ตามทางด้านนางรติมายืนยันว่าโดยปกติแล้วเมื่อได้ยามาแล้ว นายตาลมักจะไม่ค่อยกินยา  เมื่อมีการพูดคุยกันในการยืนยันว่าต้องการที่จะฉีดยามากกว่ากินยาจึงทำให้เชื่อว่านายตาลนั้นรับยามาแล้วไม่ค่อยกินยาจึงทำให้เกิดอาการกำเริบ 

         ในวันที่พบศพนั้นนางรติมาได้มีการนัดแนะกับนายตาลว่าจะต้องมีการไปรับยาที่โรงพยาบาลเสริมสุขภาพตำบล  ซึ่งนัดกันว่าจะไปเจอกันที่โรงพยาบาลโดยนายตาลก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลตามปกติแต่เนื่องจากว่าต้องรอคิวนานทำให้นายตาล เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายจึงได้บอกกับนางรติมาว่าจะกลับไปรอที่บ้านให้นางรติมาเป็นคนรับยาแทนแล้วนำไปให้ที่บ้าน 

          อย่างไรก็ตามเมื่อนางรติมารับยาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้มีการเดินทางมาที่บ้านของนายตาลพร้อมกับเจ้าหน้าที่โดยมีการขับรถกู้ชีพของทางอบตมาเมื่อมาถึงก็ได้มีการตะโกนเรียกหานายตาลแต่ไม่มีคนตอบรับมือเข้าไปดูภายในบ้านก็พบพ่อของนายตานอนเสียชีวิตอยู่จึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุซึ่งทางด้านนางรติมาและเจ้าหน้าที่ของอบตมีการสันนิษฐานว่าผู้ที่ทำร้ายพ่อของนายตาลจนเสียชีวิตนั้นน่าจะเป็นตัวนายตาลเอง ซึ่งน่าจะเกิดจากอาการป่วยกำเริบ

        อย่างไรก็ตามทางด้านผู้ใหญ่บ้าน  ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เสียชีวิตอยู่หลายครั้งซึ่งผู้เสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่าผู้เสียชีวิตนั้นกลัวว่าจะถูกลูกชายของตนเองทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเพราะลูกชายมักจะมีอาการทางประสาทอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านเองก็ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วผู้เสียชีวิตจะตายด้วยน้ำมือของลูกชายจริงๆ

         สำหรับประวัติของผู้เสียชีวิตนั้นมีรูปอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คนแต่ละคนนั้นไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดมีเพียงนายตาลเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเดียวกับผู้เป็นพ่อแต่อยู่บ้านคนละหลังซึ่งบ้านสร้างอยู่ติดกัน  อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านเห็นในตาลสะพายกระเป๋าและปั่นจักรยานออกนอกหมู่บ้านซึ่งคาดว่าจะกลัวความผิดจึงได้มีการหลบหนีออกนอกพื้นที่

 

สนับสนุนโดย    สล็อตยูฟ่าเว็บตรง