เมื่อวันที่ 11 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพศ. 2565   เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. นางรอง ประจำจังหวัดบุรีรัมย์

        ร้านทองชื่อดัง จังหวัดบุรีรัมย์  ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองเยาวราชหลานแม่กิมกี่ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวงแต่โชคดีที่ไหวตัวทันซึ่งเจ้าของร้านทองได้มีภาพมิจฉาชีพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านนำไปเป็นหลักฐานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย

         สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าของร้านทองด้วยเล่าข้อมูลว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์พ.ศ 2555 ที่ผ่านมาซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 10:30 น ในระหว่างนั้นร้านทองได้มีการเปิดทำการตามปกติอยู่ดีๆก็มีลูกค้าเป็นผู้ชายเดินเข้ามาภายในร้านซึ่งชายคนดังกล่าวอายุประมาณ 35-40 ปีใส่หน้ากากอนามัยมาติดต่อขอซื้อทองรูปพรรณและทองคำแท่ง

           โดยต้องการซื้อทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางร้านก็ได้นำทองออกมาให้เลือกโดยระหว่างนั้นก็พยายามจากสังเกตลูกค้าชายคนดังกล่าวไปด้วยแต่ก็ไม่มีพฤติกรรมที่จะมีการเข้ามาปล้นร้านทองเหมือนกับในขาวที่ผ่านมาเพียงแต่ว่าลูกค้าได้มีการเลือกทองไว้มากกว่า 200 บาทซึ่งถ้าหากคิดเป็นยอดเงินก็มีมูลค่าสูงถึง 5.8 ล้านบาทเลยทีเดียว  aesexy    อย่างไรก็ตามลูกค้ารายดังกล่าวระบุว่าทองทั้งหมดนั้นเถ้าแก่ของเขาต้องการที่จะซื้อนำไปแจกให้กับพนักงานซึ่งได้มีการตกลงเลือกทองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและนัดการจ่ายเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

              อย่างไรก็ตามวิชาชีพคนดังกล่าวได้มีการโทรศัพท์ไปหามิจฉาชีพอีกคนหนึ่งหลังจากนั้นก็มีข้อความจากทางธนาคารว่ามีเงินเข้าบัญชีจำนวน 5.8 ล้านบาทซึ่งทางเจ้าของร้านทองเองก็ยังไม่ได้วางใจได้มีการให้ลูกน้องนำสมุดบัญชีไปอัพโดยสมุดบัญชีก็มีการระบุว่ามียอดเงินเข้าจำนวน 5.8 ล้านบาทจริงแต่ทั้งนี้เจ้าของร้านเองยังต้องการความแน่นอนอีกรอบนึงจึงได้มีการโทรไปที่ธนาคารเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยเช็คเงินในบัญชีให้ว่ามีเงินเข้าจริงตามที่มีการอัพ Book Bank หรือไม่

           ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้อธิบายข้อมูลว่ายอดเงินจะยังไม่เข้าเพราะเป็นการจ่ายผ่านทางแคชเชียร์เช็คจะต้องรอเคลียริ่งประมาณ 1 วันที่อัพบุ๊คแบงค์แล้วเห็นยอดเงินนั้นจะเป็นข้อมูลล่วงหน้าให้ทราบก่อนเพียงเท่านั้นเมื่อทราบเรื่องราวดังกล่าวทางเจ้าของร้านทองจึงได้มีการคุยกับมิจฉาชีพว่าต้องการเป็นเงินสดทำให้มิจฉาชีพนั้นเดินออกจากร้านไปทันทีและขับรถหนีหายไป

          เนื่องจากว่าจอดรถห่างจากหน้าร้านเพียงแค่ประมาณ 50 เมตรเท่านั้นทำให้เจ้าของร้านทองมั่นใจได้ว่านี่คือแก๊งมิจฉาชีพที่จะมาหลอกเอาทองจากทางร้านเธอจึงได้แจ้งความดำเนินคดีนอกจากนี้ได้มีการโทรไปหาญาติพี่น้องที่เปิดร้านทองเหมือนกันและได้มีการแชร์ประสบการณ์ให้กับญาติพี่น้องที่เปิดร้านทองเพื่อไม่ให้ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาทองไปอย่างไรก็ตามเจ้าของร้านทองรายนี้ระบุว่าเธอได้ข่าวมาว่ามีร้านทองร้านหนึ่งถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกเอาทองไปได้ถึง 30 บาทไปแล้ว